ลอนดอน 7 มิ.ย. – อดีตประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศ 100 คน เรียกร้องให้กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือจี 7 (G7) จ่ายค่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั่วโลก เพื่อช่วยหยุดยั้งการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดที่ทำให้เกิดภัยคุกคามไปทั่ว
กลุ่มอดีตผู้นำระดับโลกได้ระบุในจดหมายที่ส่งถึงกลุ่มจี 7 ว่า ความร่วมมือระดับโลกล้มเหลวเมื่อปีก่อน แต่ในปีนี้อาจก้าวไปสู่ยุคใหม่ได้ การสนับสนุนจากกลุ่มจี 7 และจี 20 เพื่อทำให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ใช่การกุศล แต่เป็นผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ของแต่ละประเทศมากกว่า ทั้งยังระบุว่า กลุ่มจี 7 และผู้นำประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในวันศุกร์นี้ ควรรับประกันว่าจะจ่ายเงินสูงสุดปีละ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 93.6 ล้านล้านบาท) เป็นเวลาสองปีเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ในบรรดาผู้นำที่ลงนามในจดหมายดังกล่าว ได้แก่ นายกอร์ดอน บราวน์ และนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบัน คี-มูน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น และอดีตผู้นำแอฟริกา 15 คน
ในขณะเดียวกัน นายบราวน์ได้ระบุเพิ่มเติมในจดหมายดังกล่าวว่า สิ่งที่กลุ่มจี 7 จะจ่ายไม่ใช่การกุศล แต่เป็นการป้องกันตัวเองเพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา และการย้อนกลับมาเป็นภัยคุกคามต่อทุกคน อังกฤษจะจ่ายเงินเพียง 30 เพนนี (ราว 13 บาท) ต่อคนต่อสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นราคาเพียงเล็กน้อยสำหรับนโยบายประกันภัยที่ดีที่สุดในโลก ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของอดีตผู้นำระดับโลกเป็นไปในทิศทางเดียวองค์กรสหพันธ์พิทักษ์เด็ก (Save the Children) ที่พบว่ามีประชาชนในสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และแคนาดาสนับสนุนการจ่ายเงินราว 66,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 206 ล้านล้านบาท) เพื่อจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วโลก ทั้งนี้ ผลสำรวจความเห็นขององค์กรดังกล่าวระบุว่า ชาวอังกฤษและชาวอเมริกันมากถึงร้อยละ 79 สนับสนุนนโยบายดังกล่าว โดยที่ชาวฝรั่งเศสสนับสนุนน้อยสุดที่ร้อยละ 63.-สำนักข่าวไทย