แอสตราฯ เผยฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็มต้านโอไมครอนได้

ลอนดอน 23 ธ.ค. – แอสตราเซเนกา บริษัทเวชภัณฑ์สัญชาติอังกฤษและสวีเดน เผยข้อมูลจากการทดลองในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษในวันนี้ว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของแอสตราเซเนกา 3 เข็มมีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลกได้ แอสตราเซเนการะบุว่า ผลการทดลองดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาครบ 3 เข็มจะช่วยเพิ่มระดับสารภูมิต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนให้อยู่ในระดับเดียวสารภูมิต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาหลังฉีดวัคซีนครบสองโดส ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มสามของแอสตราฯ จะมีระดับสารภูมิต้านทานเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสูงกว่าผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาหายดีแล้ว โดยที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดได้วิเคราะห์ตัวอย่างเลือดจากกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนครบสองโดสและวัคซีนเข็มสาม และผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อโควิดในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล รวมถึงตัวอย่างเลือดจากผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มสามของแอสตราฯ 41 คน ทั้งยังระบุว่า คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดที่เป็นผู้ดำเนินการทดลองในครั้งนี้เป็นนักวิจัยอิสระคนละทีมกับที่พัฒนาวัคซีนของแอสตราฯ ในขณะเดียวกัน นายเมเน ปังกาลอส หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาชีวเภสัชภัณฑ์ของแอสตราฯ กล่าวว่า ในขณะที่แอสตราฯ เริ่มเข้าใจเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนมากขึ้น บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถกระตุ้นการตอบสนองของที-เซลล์ (T-cell) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการหาและกำจัดเซลล์ติดเชื้อ ให้มีประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ ทั้งนี้ ผลการทดลองดังกล่าว ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการและยังไม่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ มีความสอดคล้องกับผลการทดลองของไฟเซอร์กับโมเดอร์นาที่ระบุว่า การฉีดวัคซีนโควิดที่ทั้งสองบริษัทพัฒนาขึ้นครบ 3 เข็มมีประสิทธิภาพต้านเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนได้. -สำนักข่าวไทย

ศรีลังกาจะส่งใบชาใช้หนี้น้ำมันอิหร่าน

โคลัมโบ 23 ธ.ค.- ศรีลังกาจะชำระหนี้ค่าน้ำมันที่นำเข้าจากอิหร่าน ด้วยการส่งใบชาไปให้ทุกเดือนจนกว่าจะหมดหนี้จำนวน 251 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,430 ล้านบาท) นายราเมศ ปาติรานา รัฐมนตรีกระทรวงการเพาะปลูกของศรีลังกาเผยว่า รัฐบาลจะส่งใบชามูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 166 ล้านบาท) ไปให้อิหร่านทุกเดือน จนกว่าจะชำระค่าน้ำมันที่ค้างชำระอิหร่านตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้อย่างครบถ้วน การชำระเงินด้วยวิธีนี้ไม่ขัดต่อมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหประชาชาติหรือสหรัฐ เพราะใบชาถูกจัดเป็นอาหารตามเหตุผลด้านมนุษยธรรม และไม่มีธนาคารอิหร่านที่ถูกขึ้นบัญชีดำเข้ามาเกี่ยวข้องกับการชำระหนี้ด้วย ด้านกระทรวงการเพาะปลูกแถลงเพิ่มเติมว่า แผนการชำระหนี้ดังกล่าวจะช่วยให้ศรีลังกาประหยัดเงินตราต่างประเทศที่กำลังขาดแคลน เพราะชำระเป็นสกุลเงินรูปีศรีลังกา ขณะที่สมาคมผู้ปลูกใบชาศรีลังกาชี้ว่า วิธีนี้ให้ประโยชน์แก่ผู้ส่งออกโดยไม่จำเป็นเพราะเลี่ยงกลไกตลาดเสรี ขณะที่ผู้ปลูกยังไม่ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น เพราะยังคงได้รับเป็นเงินรูปีศรีลังกาเช่นเดิม ศรีลังกากำลังเผชิญวิกฤตหนี้สินและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศขั้นร้ายแรง ซึ่งเลวร้ายลงอีกเนื่องจากการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สมาชิกคณะกรรมการใบชาแห่งชาติเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่ศรีลังกาจะนำใบชาไปแลกเปลี่ยนเพื่อชำระหนี้ต่างประเทศ มีรายงานว่า ศรีลังกามีกำหนดชำระหนี้ 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 151,140 ล้านบาท) ในปีหน้า แต่ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลงเหลือ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 53,740 ล้านบาท) นับจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ดี […]

ดินถล่มเหมืองหยกเมียนมา เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

ย่างกุ้ง 23 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเมียนมาพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รายจากเหตุดินถล่มเหมืองหยกผิดกฎหมายในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมียนมาเมื่อวันพุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 3 ราย และสูญหายอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเมียนมาพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รายในทะเลสาบที่อยู่ใกล้เหมืองหยกดังกล่าวในวันนี้ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3 ราย หลังจากที่เมื่อวานนี้พบผู้เสียชีวิต 1 ราย แต่ต้องยุติปฏิบัติการค้นหา เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศที่มีหมอกหนาจัดและฝนตกในช่วงกลางคืน ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยคาดว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 70 คนหลังเกิดเหตุดินถล่มเหมืองหยกเมื่อช่วงเช้ามืดวันพุธ แต่ระบุในเวลาต่อมาว่ายังไม่ทราบตัวเลขผู้สูญหายที่แน่ชัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยขององค์กรกู้ภัยเมียนมาร์ กล่าวว่า สภาพอากาศในวันนี้แจ่มใส และมีทีมกู้ภัย 6 ทีมที่กำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ทั้งยังระบุว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้มีสาเหตุจากกองดินและหินที่กวาดแรงงานตกลงไปในทะเลสาบที่ตั้งอยู่ใกล้เหมืองหยก. -สำนักข่าวไทย

ทหารอเมริกันไม่ได้ตรวจโควิดก่อนมาญี่ปุ่น

โตเกียว 23 ธ.ค.- รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงวันนี้ว่า กองทัพสหรัฐในญี่ปุ่นไม่ได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กับกำลังพลก่อนเดินทางออกจากสหรัฐมาญี่ปุ่น ทั้งที่ญี่ปุ่นขอให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมพรมแดน นายฮิโรกาสึ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงวันนี้ว่า ญี่ปุ่นได้ขอให้สหรัฐปฏิบัติตามมาตรการสูงสุดอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ เขาได้รับคำชี้แจงว่า กำลังพลสหรัฐในญี่ปุ่นไม่ได้ตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ก่อนออกเดินทางจากสหรัฐ แต่มาตรวจในวันที่ 5 หลังเดินทางมาถึง เนื่องจากฉีดวัคซีนแล้ว และจะไม่ออกจากค่ายทหารจนกว่าจะถูกยกเลิกการจำกัดการเดินทาง ส่วนเมื่อวานนี้นายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นได้ส่งสารแสดงความเสียใจอย่างยิ่งไปยัง พล.ท.ริกกี รัปป์ ผู้บังคับการกองทัพสหรัฐในญี่ปุ่น เรื่องสหรัฐไม่ตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์กับกำลังพลก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเปิดเผยเรื่องนี้ หลังจากมีรายงานว่ามีการติดเชื้อโควิดเป็นกลุ่มที่ค่ายแฮนเซนของนาวิกโยธินสหรัฐในจังหวัดโอกินาวา ซึ่งเป็นเกาะทางใต้ของญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนธันวาคม โดยมีผู้ติดเชื้อรวมแล้ว 227 คนนับจนถึงเช้าวันนี้ และกำลังตรวจว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

“อินเทล” ขอโทษชาวจีนกรณีซินเจียงอุยกูร์

ปักกิ่ง 23 ธ.ค. – อินเทล บริษัทผลิตชิปคอมพิวเตอร์ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ขอโทษลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และประชาชนจีน หลังระบุข้อความในจดหมายถึงผู้จัดหาสินค้าและบริการของบริษัท หรือซัพพลายเออร์ ให้เลิกใช้ผลิตภัณฑ์หรือแรงงานจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งทำให้อินเทลต้องเผชิญกับกระแสโจมตีอย่างหนักในจีน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างข้อความในจดหมายประจำปีของอินเทลที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และได้รับการแปลหลายภาษาว่า  อินเทลต้องมั่นใจว่าห่วงโซ่อุปทานของบริษัทจะไม่มีแหล่งที่มาของสินค้า แรงงาน หรือบริการที่เชื่อมโยงกับเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการที่กำหนดโดยรัฐบาลหลายประเทศ อย่างไรก็ดี จดหมายดังกล่าวได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในจีนทั้งในสื่อของทางการจีนและสื่อโซเชียลมีเดียที่เรียกร้องให้แบนสินค้าของอินเทล ในเวลาต่อมา อินเทลได้ระบุในแถลงการณ์ผ่านบัญชีวีแชตและเวย์ปั๋วของบริษัทในวันนี้ว่า ความมุ่งมั่นในการหลีกเลี่ยงห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงกับเขตซินเจียงเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของสหรัฐมากกว่าที่จะเป็นการแสดงจุดยืนของบริษัท อินเทลขอโทษต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และประชาชนจีน บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือและเร่งการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ร่วมกับจีน อย่างไรก็ดี แคร์รี หวัง หรือ หวัง จุนไค นักร้องและนักแสดงชื่อดังชาวจีน ออกมาเผยว่า เขาได้ยกเลิกสัญญาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของอินเทลแล้ว โดยระบุในแถลงการณ์ว่า เขาให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือสิ่งอื่นใด ขณะที่ผู้ใช้งานเวย์ปั๋วจำนวนมากต่างโจมตีคำขอโทษของอินเทลว่า เป็นความพยายามปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจในจีนเท่านั้น ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น และกลุ่มสิทธิคาดการณ์ว่า มีประชาชนกว่า 1 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ ถูกทางการจีนคุมขังไว้ในค่ายปรับทัศนคติที่ซินเจียงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่จีนปฏิเสธเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง โดยอ้างว่านโยบายดังกล่าวช่วยแก้ปัญหากลุ่มลัทธิหัวรุนแรง. […]

“บิล เกตส์” ชี้โอไมครอนอาจทำสหรัฐสู่ช่วงเลวร้ายของโควิด

นิวยอร์ก 23 ธ.ค.- บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์จะยกเลิกแผนการเดินทางส่วนใหญ่ช่วงเทศกาลวันหยุดสิ้นปี และเตือนว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนอาจทำให้สหรัฐเข้าสู่ช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด เกตส์ วัย 66 ปี ทวีตหลายข้อความเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ เขายืนยันว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่เร็วกว่าไวรัสทุกชนิดที่เคยมี ปัญหาใหญ่ในขณะนี้คือ ยังไม่รู้ว่าโอไมครอนทำให้ป่วยมากน้อยเพียงใด จึงต้องให้ความสำคัญจนกว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติม และแม้ว่าโอไมครอนจะรุนแรงเพียงครึ่งหนึ่งของเดลตา ก็จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพราะเชื้อแพร่ได้ง่ายมาก เขาคาดว่า การระบาดระลอกปัจจุบันในสหรัฐจะกินเวลานาน 3 เดือน ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ระบุว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐมีผู้ติดโควิดรายใหม่เฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 148,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น  และกลับมาใกล้เคียงกับช่วงที่มีการระบาดหนักราวกลางเดือนกันายน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตรายวันเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 1,324 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แจ้งว่า สหรัฐมีผู้ป่วยโควิดรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมากกว่า 69,700 คนนับจนถึงวันพุธ เป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น จากที่เคยลดลงเหลือ 45,000 คนเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน.-605

นายกฯ อินเดียเรียกประชุมมุขมนตรีรับมือโอไมครอน

นิวเดลี 23 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียจะหารือกับมุขมนตรีรัฐต่าง ๆ ในวันนี้ เรื่องหาทางควบคุมผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนที่อาจเพิ่มขึ้นก่อนเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลอง เนื่องจากผู้คนเริ่มรวมตัวกันตามสถานที่สาธารณะและตลาดมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานว่า ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19    สายพันธุ์โอใครอน 236 คนใน 16 รัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากสัปดาห์ก่อน แม้ผู้ใหญ่ชาวอินเดียกว่าครึ่งฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ยังมีอีกหลายล้านคนอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แพทย์เตือนว่า หากอินเดียเกิดการระบาดระลอก 3 เพราะโอไมครอนระบบสาธารณสุขอาจจะรับมือไม่ไหวภายในเวลาอันสั้น รัฐบาลนายกรัฐมนตรีโมดีเคยถูกตำหนิอย่างหนักช่วงต้นปีนี้ที่ระบบสาธารณสุขของประเทศไม่สามารถรับมือกับการระบาดระลอก 2 จากสายพันธุ์เดลตาที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ทางการกรุงนิวเดลีประกาศในสัปดาห์นี้ให้งดจัดงานฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ตามที่สาธารณะเป็นบางส่วน และส่งตำรวจ 300-350 นายออกกวดขันประชาชนให้ปฏิบัติตามระเบียบ ส่วนใหญ่เป็นการห้ามคนรวมตัวกันหนาแน่นตามตลาดที่ผู้คนจำนวนมากไม่สวมหน้ากากอนามัย ขณะที่รัฐกรณาฏกะ ทางตอนใต้ สั่งห้ามโบสถ์ใช้สถานที่สาธารณะหรือถนนสองข้างทางเป็นสถานที่รองรับคนที่จะมาร่วมงาน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียหวนใช้มาตรการคุมโควิดหลังยอดติดเชื้อพุ่งสูง

ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นสองรัฐใหญ่ของออสเตรเลีย ประกาศกลับไปใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้งในวันนี้

จีนล็อกดาวน์ 13 ล้านคนในเมืองซีอานตั้งแต่วันนี้

ซีอาน 23 ธ.ค.- จีนสั่งให้ประชาชน  13 ล้านคนในซีอาน มณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่แต่ในบ้านตั้งแต่วันนี้ เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทางการสั่งให้ทุกครัวเรือนส่งคนออกไปซื้อของจำเป็นได้เพียง 1 คนในทุก 2 วันเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่คนอื่น ๆ ในครัวเรือนต้องอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นมีเหตุฉุกเฉิน และห้ามออกนอกเมืองโดยไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องขออนุญาตจากทางการ ธุรกิจที่ไม่จำเป็นถูกปิดหมด รวมถึงสุสานทหารม้าดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ชื่อดังอายุเก่าแก่ 2,000 ปี เมืองซีอานถูกล็อกดาวน์หลังจากพบว่า ผู้ติดเชื้อหลายร้อยคนโยงกับผู้ติดเชื้อรายแรกในมหาวิทยาลัยของเมือง ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 63 คนในวันนี้ หลังจากทางการเริ่มตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่กับคนทั้งเมือง 13 ล้านคน การระบาดในเมืองซีอานยังแพร่ไปยังเมืองอื่นอีก 5 เมือง เช่น กรุงปักกิ่งที่อยู่ทางเหนือ เมืองในมณฑลกวางตุ้งที่อยู่ทางใต้ จุดกระแสวิตกว่าเชื้อกำลังแพร่อย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศ รองนายกรัฐมนตรีซุน ชุนหลานเตือนขณะตรวจเยี่ยมเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า สถานการณ์กำลังร้ายแรงและซับซ้อน ขอให้เร่งใช้มาตรการควบคุมการระบาดโดยทันที จีนกำลังใช้นโยบายควบคุมโควิดเป็นศูนย์ให้ได้ ก่อนที่กรุงปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565.-สำนักข่าวไทย

อิสราเอลพบแหวนทองโบราณยุคโรมันในซากเรืออับปาง

เทลอาวีฟ 23 ธ.ค. – นักโบราณคดีอิสราเอลค้นพบแหวนทองยุคโรมันที่สลักรูปพระเยซูในช่วงศาสนาคริสต์ยุคแรกในซากเรืออับปาง 2 ลำนอกชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของอิสราเอล หน่วยงานโบราณวัตถุของอิสราเอลเผยว่า แหวนทองยุคโรมันดังกล่าวประดับด้วยอัญมณีสีเขียว สลักรูปเด็กชายเลี้ยงแกะแบกแกะตัวหนึ่งบนบ่า โดยเชื่อกันว่าเป็นรูปเคารพของพระเยซู เพราะพระคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ ระบุว่า พระเยซูตรัสว่าพระองค์เป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี (Good Shepherd) นอกจากนี้ นักโบราณคดีของอิสราเอลยังค้นพบสมบัติอื่น ๆ เช่น เหรียญเงินและเหรียญสำริดยุคโรมันจำนวนมากในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 3 กองเหรียญเงินขนาดใหญ่ที่ใช้กันในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14 ซึ่งเป็นช่วงรัฐสุลต่านมัมลูกที่ปกครองแผ่นดินอียิปต์ตั้งแต่ ค.ศ. 1250-1517 หุ่นจำลองรูปนกอินทรียุคโรมัน ระฆังสำริดที่ใช้ปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย และแหวนประดับอัญมณีสีแดงที่สลักรูปพิณ หน่วยงานโบราณวัตถุของอิสราเอลยังระบุว่า พบซากเรืออับปางดังกล่าวและสินค้าต่าง ๆ บนเรือจมอยู่ใต้ทะเลลึกราว 4 เมตร โดยสันนิษฐานว่าเรือทั้งสองลำอาจทอดสมออยู่ตรงบริเวณนั้นและอับปางเพราะลมพายุ การค้นพบในครั้งนี้ถือเป็นหลักฐานแรก ๆ เรื่องการยอมรับผู้ที่ไม่ใช่ชาวยิวให้เข้าร่วมในชุมชนคริสเตียน และจากจุดนั้นศาสนาคริสต์ก็เริ่มเผยแผ่ไปทั่วโลก. -สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นยังไม่เข้มงวดมาตรการแม้พบโอไมครอนในประเทศ

โตเกียว 23 ธ.ค.- ญี่ปุ่นจะยังไม่เข้มงวดมาตรการจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แม้พบการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนภายในประเทศเป็นครั้งแรก นายฮิโรกาสึ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแถลงวันนี้ว่า ณ เวลานี้รัฐบาลยังไม่คิดเรื่องเปลี่ยนแปลงการผ่อนคลายมาตรการจำกัดกิจกรรมของประชาชน แต่ได้เตรียมตัวตอบสนองอย่างรวดเร็ว ด้วยการประสานงานกับทางการท้องถิ่นและผู้เชี่ยวชาญให้ทบทวนเรื่องสถานการณ์การระบาด ด้านนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะกล่าวว่า ในระหว่างที่ยังมีความไม่แน่ชัดเรื่องไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน รัฐบาลได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับการระบาดแล้ว โดยได้ใช้ช่วงเวลาที่เข้มงวดพรมแดน ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน มาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กระบวนการป้องกัน ตรวจหาเชื้อ และรักษาแต่เนิ่น ๆ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มจำนวนเตียงในโรงพยาบาล ห้องพักกักโรคในโรงแรม และการประสานงานระหว่างหน่วยงานทางการแพทย์ ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน เป็นชายที่เดินทางมาจากนามิเบีย และแจ้งเมื่อวันพุธว่า พบการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนภายในประเทศครั้งแรกที่จังหวัดโอซากา เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน 3 คนที่ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ และไม่ทราบที่มาของการติดเชื้อ ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วหลังจากแสดงอาการในช่วงวันเสาร์จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้แล้ว 160 คน.-สำนักข่าวไทย

ม.ฮ่องกงรื้อรูปปั้นรำลึกเทียนอันเหมินที่ตั้งมากว่า 20 ปี

ฮ่องกง 23 ธ.ค.- มหาวิทยาลัยฮ่องกงหรือเอชเคยู (HKU) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่และชั้นนำของฮ่องกงรื้อถอนประติมากรรมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินของจีนในปี 2532 หลังจากตั้งมาตั้งแต่ปี 2540 สภาเอชเคยูแถลงในเช้าวันนี้ว่า ตัดสินใจเรื่องนี้ในการประชุมเมื่อวันพุธ ตามที่ได้รับคำแนะนำทางกฎหมายจากภายนอกและการประเมินความเสี่ยงเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมหาวิทยาลัย สภาขอให้เก็บประติมากรรมดังกล่าวไว้ในโรงเก็บ และจะขอคำแนะนำทางกฎหมายเพื่อดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป สภาเอชเคยูระบุด้วยว่า ไม่เคยมีใครขออนุญาตนำรูปปั้นนี้มาตั้งในมหาวิทยาลัย ทางสภาจึงมีสิทธิที่จะดำเนินการอย่างเหมาะสมได้ทุกเมื่อ อีกทั้งรูปปั้นนี้มีความบอบบาง เสี่ยงเป็นอันตรายได้ มีข่าวว่า สภาได้ส่งคำร้องทางกฎหมายไปยังผู้ดูแลเมื่อหลายเดือนก่อนเรื่องขอรื้อรูปปั้น  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือ รปภ.นำเส้นกั้นสีเหลืองมาล้อมรอบประติมากรรมทองแดงดังกล่าวที่มีความสูง 8 เมตร หนัก 2 ตันตั้งแต่กลางดึกวันพุธ จากนั้นกลุ่มคนงานนำแผ่นพลาสติกสีขาวมาหุ้มรูปปั้นทั้งหมด ก่อนใช้เครนยกรูปปั้นไปไว้ในตู้คอนเทนเนอร์บนรถบรรทุกและขับออกไปในเช้าวันนี้ โดยนำแผ่นพลาสติกไปคลุมส่วนที่เคยเป็นที่ตั้งของรูปปั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยได้นำกระถางต้นพอยน์เซตเทียที่นิยมใช้ตกแต่งช่วงคริสต์มาสมาวางรอบด้านนอกเส้นกั้นสีเหลือง ด้านนายเยนส์ แกลส์ชุต ศิลปินชาวเดนมาร์ก วัย 67 ปี ผู้สร้างประติมากรรมนี้แถลงแสดงความตกใจอย่างยิ่ง และจะเรียกร้องเงินชดเชยหากทรัพย์สินส่วนตัวนี้ได้รับความเสียหาย เขาเคยเสนอเมื่อกลางเดือนว่าจะนำผลงานของตนเองกลับเดนมาร์ก โดยตีราคาผลงานไว้ที่ 1 ล้าน 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 47 ล้านบาท) นายแกลส์ชุตสร้างประติมากรรมนี้ในฮ่องกงในปี 2540 โดยตั้งชื่อว่า Pillar of Shame […]

1 143 144 145 146 147 315