กรุงเทพฯ 26 ก.ค.- กอนช. พร้อมรับสถานการณ์ฝนตกช่วงปลายฤดู ตั้งแต่สิงหาคมเป็นต้นไป ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น มากสุดตุลาคม ซึ่งจะมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติประมาณ 7% เตรียมจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยครอบคลุมทุกภูมิภาค ย้ำข้อสั่งการ “พล.อ.ประวิตร” ให้ทุกหน่วยงานพร้อมรับสถานการณ์ ลดผลกระทบและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงกลางฤดูฝน โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ฝนจะตกชุกขึ้น แล้วตกมากที่สุดในเดือนตุลาคมซึ่งเป็นปลายฤดู คาดการณ์ว่า ในเดือนตุลาคมฝนจะมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 7% ทำให้หลายพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย กอนช. กำหนด 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 65 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ “วิกฤติน้ำ” โดยบูรณาการทุกหน่วยงานปฏิบัติงานร่วมกัน ตั้งแต่การป้องกันก่อนเกิดภัย การดำเนินการขณะเกิดภัย ทั้งการวางแผนและจัดสรรน้ำอย่างเหมาะสม การวิเคราะห์คาดการณ์ที่แม่นยำและทันต่อเหตุการณ์ เพื่อแก้ไขและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน และการช่วยเหลือเยียวยาภายหลังประสบภัย ภายใต้กลไกของ “ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ” ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 เชื่อมโยงกับการรับมือสาธารณภัยด้านน้ำ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550
สำหรับมาตรการสำคัญที่เพิ่มขึ้นมาคือ การจัดตั้ง “ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น โดยขยายผลจากความสำเร็จการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ที่จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์อุทกภัยและเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ภาคเหนือจะจัดจัดตั้งที่จังหวัดพิษณุโลก ภาคกลางที่จังหวัดชัยนาท ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดอุบลราชธานี
ทั้งนี้พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกอนช. กำชับว่า ในการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในฤดูฝนปีนี้ จะต้องซักซ้อมความพร้อมของแผนเผชิญเหตุเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบริหารจัดการน้ำและเผชิญเหตุ ทั้งในส่วนกลางและหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ได้ร่วมซักซ้อมการปฏิบัติตาม 13 มาตรการสามารถติดตามประเมินและคาดการณ์สถานการณ์น้ำ พร้อมแจ้งเตือน รวมถึงการบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสม ทันต่อสถานการณ์ หากมีความจำเป็นต้องอพยพประชาชนต้องเตรียมสถานที่รองรับให้พร้อม ตลอจนต้องเข้าช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบให้ที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย
