กมธ.สิ่งแวดล้อม สว. จี้ สทนช. แก้สนธิสัญญา ดึง “เมียนมา-จีน” ร่วมแก้ปัญหา

รัฐสภา 10 มิ.ย.-กมธ.สิ่งแวดล้อม สว. จี้ สทนช. แก้สนธิสัญญา MRC ดึง “เมียนมา-จีน” ร่วมแก้ปัญหาสารพิษแม่น้ำโขง เหตุเป็นต้นน้ำ ชี้สร้างเขื่อนกักตะกอนสารพิษ แก้ปัญหาปลายเหตุ กักไม่ได้ 100% บอกประเทศไทยเหมือนถูกรังแก

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวถึงวาระการประชุมวันนี้ ว่า วันนี้กรรมาธิการฯ คุยกันเรื่องมิติของมลพิษใน แม่น้ำกก แม่น้ำสาย จังหวัดเชียงราย รวมถึงแม่น้ำกระบุรี ที่จังหวัดระนอง ซึ่งทาง สส.ระนองของพรรคภูมิใจไทย ได้มายื่นเรื่องให้กรรมาธิการฯ และทราบว่ามาจากการทำเหมืองเช่นเดียวกัน เพราะเรื่องการทำทรัพยากรธรรมชาติวันนี้เรามีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหามานานแล้ว ตั้งแต่เรื่องไม้พยุง การล่าสัตว์ เขาพระวิหาร ที่มีคดีลักลอบการล่าสัตว์ป่า เราจึงมีความห่วงใย ต่อทรัพยากรธรรมชาติของเรา


นายชีวะภาพ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำกระบุรีต้นเหตุมาจากการทำเหมืองทองหรือเหมืองอะไรก็ตามที่มีการปนเปื้อนสารพิษ ซึ่งเรามีความวิตกกังวล วันนี้ทางกรรมาธิการฯ ได้มีการเชิญกรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเราต้องดูในเรื่องของนิติวิทยาศาสตร์ แล้วต้องคุยกันว่าจะใช้วิธีการตรวจแบบใด และใครจะเป็นคนตรวจ ตรวจจุดไหนบ้าง ต้องคุยให้จบและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เช่นนั้นคนที่เดือดร้อนคือประชาชน หากได้ผลนิติวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องมาวิเคราะห์ ก็จะพบว่าเกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบเหล่านั้นก็ต้องออกมาดำเนินการให้ไปในทิศทางเดียวกัน สุดท้ายต้องมาดูว่าประชาชนจะปรับตัวและอยู่อย่างไร

นายชีวะภาพ กล่าวว่า ขณะที่ฝ่ายราชการเองก็ต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน เพราะวันนี้ยังไม่เห็นการประชุมอะไรเลย การลงนามในสนธิสัญญา คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือ Mekong River Commission ( MRC ) ที่มี 4 ประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขง และการบริหารจัดการน้ำประกอบโดย ไทย ลาว กัมพูชาและเวียดนาม แต่ยังขาดประเทศพม่าและประเทศจีน ที่เป็นต้นทางของแม่น้ำโขง ซึ่ง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ต้องแก้ไขปัญหาในสนธิสัญญา คือ นำประเทศพม่าและจีนเข้ามาร่วมประชุมด้วย เพราะปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก แม่น้ำสายมีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว


นายชีวะภาพ ระบุว่า ขอถามไปยังรัฐบาลว่าได้ประชุมอะไรบ้างหรือยัง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ต้องมีการประชุม MRC แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้าและมองว่าเรื่องนี้ต้องแก้ที่ต้นต่อ เราอยู่กลางน้ำแต่ต้นน้ำ มีการปล่อยสารพิษตลอด เราก็สู้ไม่ได้

เมื่อถามว่ารัฐบาลแก้ปัญหาล่าช้าใช่หรือไม่ นายชีวะภาพ กล่าวว่า บางหน่วยงานก็ตื่นตัวยังกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะที่หน่วยงานระหว่างประเทศ ยังไม่ได้มีการประชุม MRC สทนช. ตอนนี้ทำอะไรอยู่ เชิญมาให้ข้อมูลก็ อ้อมๆ แอมๆ

ส่วนการประชุมกรรมาธิการจะผลักดันการแก้ปัญหาไปจนให้สำเร็จหรือไม่ เพราะขณะนี้ทางรัฐบาลจะสร้างเขื่อนเพื่อกักตะกอนสารพิษ ซึ่งใช้เวลาถึง 3 เดือน นายชีวะภาพ กล่าวว่า การทำเขื่อนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เขื่อนป้องกันตะกอนน้ำแบบนี้ ถามว่าได้ 100% หรือไม่ แล้วตอนนี้ต้นน้ำที่เป็นแหล่งกำเนิดสารพิษได้เป็นการพูดคุยกันแล้วหรือไม่


“ต้นน้ำยังแก้ไม่ได้ เราอยู่กลางน้ำก็ลำบาก ผมไม่เห็นด้วยที่จะสร้างฝ่ายดักตะกอน มันช่วยได้แต่ไม่ 100% วันนี้ไม่มีนักวิชาการคนไหนแอ่นอกตอบได้ว่าการสร้างเขื่อนดักตะกอนแบบนี้ ได้กี่เปอร์เซ็นต์ การันตีได้หรือไม่ สร้างเสร็จแล้วเอาน้ำเอาปลามากินตรงนั้นได้หรือไม่ เมื่อสร้างแล้วก็ตอบไม่ได้ว่าตกตะกอนกี่เปอร์เซ็นต์ วันนี้เราเหมือนทุกรังแก เพราะเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ คุณมาทำให้ปนเปื้อน เรามีผลกระทบ เราเสียหายเราเรียกร้องใครได้บ้าง” นายชีวะภาพ กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน”​ เข้า ก.มหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ

ก.มหาดไทย 26 ก.ย.-“อนุทิน”​ เข้ากระทรวงมหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ บอก​พักร้อนไป 2 เดือน มีความพยายามใช้อำนาจการเมืองโยกย้ายข้าราชการ ย้ำ​ถ้าวันนั้นไม่จากไป​ คงไม่มีวันนี้ที่กลับมา​ ขอ​ยึดหลักซื่อสัตย์-สุจริต ไม่เกรงกลัวอำนาจใด พร้อมรักษาความสัมพั​นธ์ ​สนับสนุนงานกัน​ ก่อนทิ้งท้ายเนื้อเพลง​ “บอกที่แล้วก็แล้วไป” เมื่อเวลา 14.50 น. นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย​ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายศักดิ์ดา​ วิเชียรศิลป์​ และนางสาวศศิธร​ กิตติธรกุล​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ากระทรวงมหาดไทยวันแรก หลังเปลี่ยนรัฐบาลนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ​ เพื่อมอบนโยบาย​ โดยมีนายอรรถษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ ​นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า​ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้เรารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้​ และตั้งใจไว้ว่าจะทำงานสนองพระเดช​ พระคุณอย่างสุดความสามารถร่วมกับพวกท่าน เหนือสิ่งอื่นใดตนมีความยินดี​ ดีใจที่ได้กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งในกระทรวงมหาดไทยแห่งนี้ “ในขณะที่ตนพักร้อนไป 2 เดือนกว่า ได้ทราบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการ […]