กรมปศุสัตว์เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแหล่งอาหารให้ควายน้ำทะเลน้อย

พัทลุง 26 เม.ย.- อธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ทะเลน้อย จ.พัทลุง ทำให้น้ำที่ท่วมขังพื้นที่อาศัยและหากินของควายน้ำยังไม่ลดระดับลง ประกอบกับมี “จอกหูหนูยักษ์” ซึ่งเป็นวัชพืชต่างถิ่นระบาดพื้นที่ทะเลน้อย จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของพืชน้ำซึ่งเป็นอาหารของควาย


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ขณะนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทะเลน้อยทำให้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่อาศัยและหากินของควายน้ำซึ่งนานถึง 6 เดือนแล้วจะยังคงไม่ลดระดับลงประกอบกับมี “จอกหูหนูยักษ์” ซึ่งเป็นวัชพืชต่างถิ่นปริมาณมาก ปกคลุมผิวน้ำทำให้แสงไม่สามารถส่องลงถึงพื้นน้ำได้ ส่งผลโดยตรงกับการเจริญเติบโตของพืชอาหารกระบือทะเลน้อยตามธรรมชาติลดลง หาไม่เร่งแก้ปัญหาจะส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพควายจากภาวะขาดแคลนอาหารเป็นเวลานาน จึงต้องฟื้นฟูระบบนิเวศทะเลน้อยให้มีพืชอาหารสมบูรณ์เช่นในอดีต

ทั้งนี้กรมปศุสัตว์สนับสนุนหญ้าอาหาร ยา และเวชภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แล้วยังร่วมกับฝ่ายต่างๆ กำหนดแผนการจัดการเลี้ยงควายทะเลน้อยทุกมิติแบบมีส่วนร่วมเช่น ขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงควายและโซนพื้นที่การเลี้ยงให้ถูกต้องตามกฎหมายของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จัดสร้างคอกพักชั่วคราว สร้างจุดอพยพควายในช่วงระดับน้ำสูง และปรับปรุงพันธุ์เพื่อลดปัญหาที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ


จากการส่งสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่เข้ารักษาและฟื้นฟูสุขภาพควายทำให้มันควายเข้าถึงแหล่งอาหารได้มากขึ้น เจ้าของแยกควายอ่อนแอมาดูแลใกล้ชิดทำให้สุขภาพควายดีขึ้น แต่ยังคงต้องเฝ้าดูแลควายที่ปล่อยเลี้ยงอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะสามารถแยกและดูแลควายที่อ่อนแอได้อย่างทันท่วงที

สำหรับ “ควายทะเลน้อย” เป็นควายปลักที่เลี้ยงมาดั้งเดิมตั้งแต่บรรพบุรุษ 2- 3 ช่วงอายุคน การเลี้ยงเป็นแบบพึ่งพิงทรัพยากรในพื้นที่ทะเลน้อยเป็นหลัก ปล่อยให้หากินอิสระ แทะเล็มหญ้าธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง เวลากลางคืนควายจะพักอาศัยอยู่ตามเนินดินที่แห้งในทุ่งหญ้า พอถึงช่วงน้ำหลากจะกลับมาคอกแห้งในพื้นที่สูงรวมกัน 3-5 ราย/คอก ไม่มีการจัดการคัดเลือกพันธุ์และปรับปรุงพันธุ์ การผสมพันธุ์โดยควายเพศผู้ในฝูงแบบผสมธรรมชาติ ลูกควายที่เกิดมามีลักษณะเลือดชิด มีผลเสียทางพันธุกรรมทำให้เมื่อแรกเกิดจะไม่สมบูรณ์ สุขภาพอ่อนแอ มีอัตราการตายสูง โตช้าและแคระแกรน ซึ่งนับวันจะเป็นปัญหาสำคัญทีต้องเร่งแก้ไข เจ้าของควายไม่มีโปรแกรมดูแลสุขภาพที่สม่ำเสมอ

ที่ผ่านมาการให้บริการรักษาสุขภาพควายโดยเจ้าหน้าที่ทำได้ยากเนื่องจากไม่สามารถไล่ต้อนจับบังคับได้ทั้งหมด ประกอบกับเจ้าของควายมักขาดความพร้อม นอกจากนี้พฤติกรรมการจัดการเลี้ยงขาดความร่วมมือและไม่สามัคคีกัน เจ้าของควายแบ่งโซนพื้นที่กันในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ปล่อยให้ควายหากินอยู่ในเฉพาะพื้นที่ที่จับจอง แต่ละฝูงไม่ใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยการร่วมมือการจัดการเลี้ยง ดูแลสุขภาพ และผสมพันธุ์ควายจะช่วยกันเฉพาะที่เลี้ยงร่วมคอกกันเท่านั้น อีกทั้งแต่ละรายมีข้อมูลจำนวนควายไม่ชัดเจน  


ส่วนพื้นที่เลี้ยงอยู่ในบริเวณพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยครอบคลุมอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราชรวม 285,625 ไร่ หรือประมาณ 457 ตารางกิโลเมตร หรือส่วนที่เป็นพื้นน้ำ 17,500 ไร่ หรือประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร โดยมีคลองนางเรียมเชื่อมระหว่างทะเลน้อยและทะเลสาบสงขลา

สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยเป็นพื้นที่ราบริมทะเลสาบ ประกอบด้วยนาข้าว ป่าพรุ ป่าหญ้า และป่าดิบชื้นคิดเป็น 94 %ของทั้งหมด ส่วนที่เป็นพื้นน้ำมีเพียง 6 % เท่านั้น บึงน้ำทะเลน้อยมีสัณฐานค่อนข้างกลม กว้าง 6 กิโลเมตรและลึกเฉลี่ย 1.25 เมตร ได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2518 

จากการตรวจสอบพบว่า การเลี้ยงควายในพื้นที่ทะเลน้อยมี 11 กลุ่ม 106 คอก เกษตรกร 203 ราย เลี้ยงควายรวม 4,052 ตัว แยกดังนี้

– ตำบลพนางตุง ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง มี 8 กลุ่ม เกษตรกร 135 ราย เลี้ยงควายรวม 2,212 ตัว

– ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เกษตรกร 65 ราย เลี้ยงควายรวม 1,591 ตัว

– ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เกษตรกร 3 ราย เลี้ยงควายรวม 249  ตัว

อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวต่อว่า ในอนาคตเตรียมพัฒนาความเข็มแข็งของกลุ่มเกษตรกรเพื่อการพึ่งพาตนเองในอนาคต ผ่านความร่วมมือทั้งภาคประชาชนและหน่วยงานของรัฐอย่างยั่งยืน เช่น การจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนงบประมาณมอบให้กับกองทุนหรือองค์กรอนุรักษ์ควายทะเลน้อยและถิ่นที่อยู่อาศัยเพื่อจัดตั้งคลังเสบียงสัตว์ของกลุ่ม ตลอดจนการฟื้นฟูและการอนุรักษ์ระบบนิเวศพื้นที่ทะเลน้อยเพื่อให้มีแหล่งอาหารสำหรับควายอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย