กรมปศุสัตว์เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแหล่งอาหารให้ควายน้ำทะเลน้อย

พัทลุง 26 เม.ย.- อธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ทะเลน้อย จ.พัทลุง ทำให้น้ำที่ท่วมขังพื้นที่อาศัยและหากินของควายน้ำยังไม่ลดระดับลง ประกอบกับมี “จอกหูหนูยักษ์” ซึ่งเป็นวัชพืชต่างถิ่นระบาดพื้นที่ทะเลน้อย จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของพืชน้ำซึ่งเป็นอาหารของควาย


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ขณะนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทะเลน้อยทำให้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่อาศัยและหากินของควายน้ำซึ่งนานถึง 6 เดือนแล้วจะยังคงไม่ลดระดับลงประกอบกับมี “จอกหูหนูยักษ์” ซึ่งเป็นวัชพืชต่างถิ่นปริมาณมาก ปกคลุมผิวน้ำทำให้แสงไม่สามารถส่องลงถึงพื้นน้ำได้ ส่งผลโดยตรงกับการเจริญเติบโตของพืชอาหารกระบือทะเลน้อยตามธรรมชาติลดลง หาไม่เร่งแก้ปัญหาจะส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพควายจากภาวะขาดแคลนอาหารเป็นเวลานาน จึงต้องฟื้นฟูระบบนิเวศทะเลน้อยให้มีพืชอาหารสมบูรณ์เช่นในอดีต

ทั้งนี้กรมปศุสัตว์สนับสนุนหญ้าอาหาร ยา และเวชภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แล้วยังร่วมกับฝ่ายต่างๆ กำหนดแผนการจัดการเลี้ยงควายทะเลน้อยทุกมิติแบบมีส่วนร่วมเช่น ขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงควายและโซนพื้นที่การเลี้ยงให้ถูกต้องตามกฎหมายของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จัดสร้างคอกพักชั่วคราว สร้างจุดอพยพควายในช่วงระดับน้ำสูง และปรับปรุงพันธุ์เพื่อลดปัญหาที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ


จากการส่งสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่เข้ารักษาและฟื้นฟูสุขภาพควายทำให้มันควายเข้าถึงแหล่งอาหารได้มากขึ้น เจ้าของแยกควายอ่อนแอมาดูแลใกล้ชิดทำให้สุขภาพควายดีขึ้น แต่ยังคงต้องเฝ้าดูแลควายที่ปล่อยเลี้ยงอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะสามารถแยกและดูแลควายที่อ่อนแอได้อย่างทันท่วงที

สำหรับ “ควายทะเลน้อย” เป็นควายปลักที่เลี้ยงมาดั้งเดิมตั้งแต่บรรพบุรุษ 2- 3 ช่วงอายุคน การเลี้ยงเป็นแบบพึ่งพิงทรัพยากรในพื้นที่ทะเลน้อยเป็นหลัก ปล่อยให้หากินอิสระ แทะเล็มหญ้าธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง เวลากลางคืนควายจะพักอาศัยอยู่ตามเนินดินที่แห้งในทุ่งหญ้า พอถึงช่วงน้ำหลากจะกลับมาคอกแห้งในพื้นที่สูงรวมกัน 3-5 ราย/คอก ไม่มีการจัดการคัดเลือกพันธุ์และปรับปรุงพันธุ์ การผสมพันธุ์โดยควายเพศผู้ในฝูงแบบผสมธรรมชาติ ลูกควายที่เกิดมามีลักษณะเลือดชิด มีผลเสียทางพันธุกรรมทำให้เมื่อแรกเกิดจะไม่สมบูรณ์ สุขภาพอ่อนแอ มีอัตราการตายสูง โตช้าและแคระแกรน ซึ่งนับวันจะเป็นปัญหาสำคัญทีต้องเร่งแก้ไข เจ้าของควายไม่มีโปรแกรมดูแลสุขภาพที่สม่ำเสมอ

ที่ผ่านมาการให้บริการรักษาสุขภาพควายโดยเจ้าหน้าที่ทำได้ยากเนื่องจากไม่สามารถไล่ต้อนจับบังคับได้ทั้งหมด ประกอบกับเจ้าของควายมักขาดความพร้อม นอกจากนี้พฤติกรรมการจัดการเลี้ยงขาดความร่วมมือและไม่สามัคคีกัน เจ้าของควายแบ่งโซนพื้นที่กันในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ปล่อยให้ควายหากินอยู่ในเฉพาะพื้นที่ที่จับจอง แต่ละฝูงไม่ใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยการร่วมมือการจัดการเลี้ยง ดูแลสุขภาพ และผสมพันธุ์ควายจะช่วยกันเฉพาะที่เลี้ยงร่วมคอกกันเท่านั้น อีกทั้งแต่ละรายมีข้อมูลจำนวนควายไม่ชัดเจน  


ส่วนพื้นที่เลี้ยงอยู่ในบริเวณพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยครอบคลุมอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราชรวม 285,625 ไร่ หรือประมาณ 457 ตารางกิโลเมตร หรือส่วนที่เป็นพื้นน้ำ 17,500 ไร่ หรือประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร โดยมีคลองนางเรียมเชื่อมระหว่างทะเลน้อยและทะเลสาบสงขลา

สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยเป็นพื้นที่ราบริมทะเลสาบ ประกอบด้วยนาข้าว ป่าพรุ ป่าหญ้า และป่าดิบชื้นคิดเป็น 94 %ของทั้งหมด ส่วนที่เป็นพื้นน้ำมีเพียง 6 % เท่านั้น บึงน้ำทะเลน้อยมีสัณฐานค่อนข้างกลม กว้าง 6 กิโลเมตรและลึกเฉลี่ย 1.25 เมตร ได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2518 

จากการตรวจสอบพบว่า การเลี้ยงควายในพื้นที่ทะเลน้อยมี 11 กลุ่ม 106 คอก เกษตรกร 203 ราย เลี้ยงควายรวม 4,052 ตัว แยกดังนี้

– ตำบลพนางตุง ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง มี 8 กลุ่ม เกษตรกร 135 ราย เลี้ยงควายรวม 2,212 ตัว

– ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เกษตรกร 65 ราย เลี้ยงควายรวม 1,591 ตัว

– ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เกษตรกร 3 ราย เลี้ยงควายรวม 249  ตัว

อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวต่อว่า ในอนาคตเตรียมพัฒนาความเข็มแข็งของกลุ่มเกษตรกรเพื่อการพึ่งพาตนเองในอนาคต ผ่านความร่วมมือทั้งภาคประชาชนและหน่วยงานของรัฐอย่างยั่งยืน เช่น การจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนงบประมาณมอบให้กับกองทุนหรือองค์กรอนุรักษ์ควายทะเลน้อยและถิ่นที่อยู่อาศัยเพื่อจัดตั้งคลังเสบียงสัตว์ของกลุ่ม ตลอดจนการฟื้นฟูและการอนุรักษ์ระบบนิเวศพื้นที่ทะเลน้อยเพื่อให้มีแหล่งอาหารสำหรับควายอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย