กรมปศุสัตว์เร่งสอบสวนหาต้นตอระบาดโรคแอนแทรกซ์ที่มุกดาหาร

กรุงเทพฯ​ 2 พ.ค. – กรมปศุสัตว์ เร่งสอบสวนต้นตอการระบาดโรคแอนแทรกซ์ หลังพบผู้ป่วยเสียชีวิตที่ จ.มุกดาหาร พร้อมตั้งข้อสังเกตสถานการณ์ก่อนหน้านี้ พื้นที่ชายแดนติดกับ สปป ลาว มีเหตุ​น้ำท่วม อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เชื้อโรค​แพร่กระจาย เข้ม​ห้ามเคลื่อน​ย้าย​สัตว์ เพื่อ​ควบคุม​โรค


นายสัตวแพทย์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์พื้นที่และชุดเฉพาะกิจพญาไท ลงพื้นที่สอบสวนต้นเหตุ​ของ​การพบโรคแอนแทรก​ซ์ทันที​ หลังรับรายงานชายวัย 52 ปี ใน ต.เหล่าหมี อ.ดอนตาล​ จ.​มุกดาหาร​ ป่วยด้วย​โรคนี้ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งดำเนินมาตรการควบคุมโรคในวงจำกัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

การสอบสวนโรคดำเนินการร่วมกันระหว่างกรมปศุสัตว์ และกระทรวงสาธารณสุข โดยได้เก็บตัวอย่างจากสัตว์และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ คาดว่าจะทราบผลภายใน 7 วัน เพื่อยืนยันแหล่งที่มาของเชื้อและประเมินความเสี่ยง


กรมปศุสัตว์ตั้งข้อสันนิษฐาน​ถึง​สาเหตุ​การพบโรคในประเทศ​ไทยว่า​ ​อาจเกิดจาก 2 ทางหลัก ได้แก่ 1.การติดเชื้อจากสัตว์ที่ป่วยและกลายเป็นพาหะ โดยเฉพาะโค กระบือ หรือแพะ ที่อาจติดเชื้อจากอาหารหรือแหล่งน้ำที่ปนเปื้อน 2.การติดเชื้อจากสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสปอร์ของเชื้อ Bacillus anthracis สามารถคงสภาพอยู่ในดินได้นานหลายสิบปี เมื่อเกิดน้ำท่วมหรือดินถล่ม สปอร์อาจฟื้นตัวและแพร่กระจายสู่สัตว์หรือมนุษย์

ทั้งนี้ พื้นที่เกิดเหตุอยู่ติดกับเขตชายแดน สปป ลาว ซึ่งมีรายงานการพบโรคแอนแทรก​ซ​์ ต่อ​มาเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ในหลายพื้นที่ น้ำที่ท่วมอาจพัดพาเชื้อโรคเข้าสู่ระบบนิเวศในพื้นที่ชายแดนมุกดาหาร อีก​ทั้ง​เชื้อนี้ปนเปื้อน​ในสิ่ง​แวดล้อม​ได้​เป็น​เวลานาน​ อาจเกิดปัจจัยกระตุ้นให้เชื้อที่หลบซ่อนอยู่ในสิ่งแวดล้อมกลับมาแพร่กระจายอีกครั้ง ซึ่งกรมปศุสัตว์อยู่ระหว่างตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล

นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า เพื่อเตรียมความพร้อมควบคุมโรคและป้องกันการแพร่ระบาดในสัตว์ กรมปศุสัตว์ได้จัดเตรียมวัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์ จำนวน 9,000 โดส สำหรับฉีดให้กับสัตว์กลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งโค กระบือ แพะ และ​แกะ รวมทั้งพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ ด้วย พร้อมสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมตามสถานการณ์


ขณะนี้ยังไม่พบสัตว์ป่วยในพื้นที่ จากการเก็บตัวอย่างบริเวณจุดชำแหละ ตัวอย่างสัตว์ร่วมฝูงและคอกสัตว์ที่อยู่ใกล้จุดชำแหละซาก รวมทั้งตัวอย่างเนื้อสัตว์ที่เก็บจากตู้เย็น ผลการตรวจทั้งหมด ไม่พบเชื้อ (ผลเป็นลบ) อยู่ระหว่างรอผลตรวจตัวอย่างสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม

มาตรการควบคุมโรคที่ดำเนินการในพื้นที่ ได้แก่ ห้ามฆ่าและชำแหละโค กระบือในพื้นที่เสี่ยง ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ทุกชนิดออกจากพื้นที่ควบคุม ฉีดวัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์ให้สัตว์กลุ่มเสี่ยง

ตั้งจุดเฝ้าระวังและควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ตายผิดปกติ สำรวจประชากรสัตว์และกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสสัตว์ป่วย

ข้อแนะนำแก่เกษตรกร หากพบสัตว์ป่วยหรือสัตว์ตายผิดปกติ โดยเฉพาะโค กระบือ แพะ หรือแกะ ควรสังเกตอาการ เช่น มีไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร มีเลือดออกทางจมูก ปาก หรือทวาร ซากสัตว์บวมผิดปกติ เลือดที่ออกมีลักษณะสีเข้มและแข็งตัวช้า หากสงสัยสัตว์ติดโรคแอนแทรกซ์ ห้ามเคลื่อนย้ายหรือชำแหละสัตว์ และแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์หรืออาสาปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที

กรมปศุสัตว์เฝ้าระวังและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ขอความร่วมมือเกษตรกร หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ รวมถึงผู้ที่มีอาการผิดปกติ เช่น ไข้ ผื่น หายใจลำบาก ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่หรือพบแพทย์ทันที

โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ให้เฝ้าระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย