กรุงเทพฯ 26 มิ.ย.- นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเผย เข้าหารือรมว. เกษตรฯ เร่งช่วยเหลือผู้เลี้ยง โดยเฉพาะปัญหาเร่งด่วนด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์เนื่องจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศไม่เพียงพอและราคาสูง ส่งผลต้นทุนการผลิตสูงขึ้นด้วย โดยรมว. เกษตรฯ ยังสั่งการกรมปศุสัตว์ตรวจห้องเย็นทั่วประเทศอีกรอบซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว อีกทั้งสั่งกรมวิชาการเกษตรตรวจสต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า ราคาหมูหน้าฟาร์มในวันพระที่ 21 มิถุนายน 2567 ปรับขึ้น 2 บาทเฉพาะพื้นที่ที่ราคาต่ำได้แก่ ภาคกลางและภาคตะวันตก แต่คาดว่า ในวันพระที่ 29 มิถุนายน ราคาจะขยับอีกเล็กน้อย มาอยู่ที่ 74 – 76 บาทต่อกิโลกรัมตามแต่ละภูมิภาค สาเหตุจากผลผลิตสุกรออกสู่ตลาดลดลงจึงทำให้ปรับขึ้น 2 บาทตามกลไกตลาด แต่ยังต่ำกว่าต้นทุนการผลิตซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรประเมินว่า อยู่ที่กิโลกรัมละ 76 – 78 บาท
นอกจากนี้แผนดำเนินงานตามโครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกรตัดวงจรการผลิตอย่างเป็นทางการจัดทำแล้วเสร็จ จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ มีเป้าหมายนำลูกสุกรมาทำหมูหัน 75,000 ตัว ภาครัฐชดเชยให้ตัวละ 400 บาท โดยพ่อค้าจะรับลูกสุกรในราคาตัวละ 600 – 650 บาท
นายสิทธิพันธ์กล่าวว่า มีเป้าหมายจะให้ราคาหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม แต่ที่ยังไม่สามารถยกระดับให้ถึงราคาเป้าหมายได้เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคถดถอย ยืนยันว่า การปรับราคาของผู้เลี้ยงเป็นความจำเป็นที่ต้องก้าวข้ามต้นทุนไปให้ได้ โดยเป็นราคาที่ผู้เลี้ยงอยู่ได้และผู้บริโภคไม่เดือดร้อน
ก่อนหน้านี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติร่วมกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเข้าหารือกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อหารือถึงปัญหาต้นทุนการผลิตและการรักษาเสถียรภาพราคา โดยร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า สั่งการให้กรมปศุสัตว์ตรวจห้องเย็นทั่วประเทศรอบใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำ “หมูเถื่อน” มาแทรกแซงกลไกราคา ล่าสุดได้เริ่มตรวจสอบในภาคเหนือและจะตรวจสอบทุกแห่งอีกครั้ง
ทั้งสองสมาคมยังหารือกับร้อยเอกธรรมนัสถึงปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบอาหารสัตว์และราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ในประเทศผลิตได้ไม่เพียงพอ แต่การนำเข้าวัตถุดิบอื่นเช่น ข้าวสาลียังติดมาตรการ 3 : 1 เมื่อไม่สามารถหาซื้อข้าวโพดได้เพียงพอจึงไม่สามารถนำเข้าข้าวสาลีได้
ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 12.35 บาทต่อกิโลกรัม โดยเชื่อว่า ขณะนี้ข้าวโพดอยู่ในมือพ่อค้าหมดแล้ว เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดไม่ได้รับประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้น จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้นขณะนี้ ส่งผลให้ผู้เลี้ยงสุกรมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตามไปด้วย โดยเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อน้ำหนักหมูขุน 1 กิโลกรัม โดยร้อยเอกธรรมนัสรับทราบปัญหาและรับปากว่า จะช่วยเหลือ พร้อมกันนั้นได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบสต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อประกอบการพิจารณาเพิ่มปริมาณนำเข้า รวมถึงการฟื้นโครงการข้าวโพดหลังนาอีกด้วย . 512 – สำนักข่าวไทย