กรุงเทพฯ 10 ก.พ. – นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ คาดราคาหมูหน้าฟาร์มจะไม่ปรับเพิ่มไปกว่านี้ เกษตรกรเพิ่งพ้นภาวะขาดทุน ขณะที่ราคาไข่ไก่ที่ปรับลดเนื่องจากอากาศเย็น ส่งผลให้ไก่ออกไข่เพิ่มขึ้น ประกอบกับใกล้ปิดภาคเรียน ราคาอาจปรับลดอีก
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประกาศราคาแนะนำสุกรขุนหน้าฟาร์ม โดยปรับราคาขึ้น 2 บาท ทำให้ราคาอยู่ 80 บาท/กิโลกรัม ซึ่งราคาเพิ่งปรับเกินต้นทุนเป็นสัปดาห์แรก จากที่ขายต่ำกว่าต้นทุนมา 2 ปี ส่วนหนึ่งนั้นเป็นผลจากมาตรการปรับสมดุลการผลิตให้สอดคล้องกับปริมาณการบริโภค ด้วยการตัดวงจรสุกรขุน นำลูกสุกรไปทำหมูหันในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ คาดว่าราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มจะทรงตัว อีกทั้งจะพยายามตรึงราคาในระดับนี้ โดยหวังให้เกษตรกรได้มีกำไรบ้าง ขณะเดียวกันผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบ
สำหรับราคาไข่ไก่ซึ่งเครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ประกาศแจ้งสมาชิก ลดราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ฟองละ 20 สตางค์ หรือแผงละ 6 บาท เหลือฟองละ 3.40 บาท มีผลตั้งแต่วันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2568) ส่งผลให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม น้ำหนัก 20.5 กิโลกรัมขึ้นไป จากปัจจุบันฟองละ 3.60 บาท อยู่ที่ฟองละ 3.40 บาท
นางพเยาว์ อริกุล นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง ระบุว่า เป็นผลมาจากผลผลิตไข่ไก่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศเย็น แม่ไก่ออกไข่มากขึ้นและไข่ไก่ฟองใหญ่ขึ้นด้วย แต่ขณะนี้ใกล้ปิดภาคเรียน การบริโภคจะลดลง มีความเป็นไปได้ที่ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มจะลดลงอีก
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์รายงานจำนวนไก่ไข่ยืนกรง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 มี 51.42 ล้านตัว ประมาณการผลผลิต 42.68 ล้านฟองต่อวัน พร้อมคงมาตรการเดิมในการขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ทุกรายปลดไกไข่ยืนกรงที่อายุเกิน 80 สัปดาห์ ยกเว้นเกษตกรรายย่อยที่เลี้ยงต่ำกว่า 30,000 ตัว ที่ไม่ใช่ฟาร์มในระบบเกษตรพันธสัญญาของผู้ประกอบการรายใหญ่ ส่วนผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ ขนาดการเลี้ยง 100,000 ตัวขึ้นไป ให้ปลดไก่ใช่ยืนกรงไม่ให้อายุเกิน 78 สัปดาห์จนถึงเดือนเมษายน 2568. – 512 – สำนักข่าวไทย