“นายกหมู” ชี้การกดราคาสินค้าปศุสัตว์ ทำ GDP ภาคเกษตรติดลบ

กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเชื่อ การกดราคาภาคปศุสัตว์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ GDP ภาคเกษตรติดลบ กระทบ GDP รวม Q1/67 ชี้การบริโภคภาคเอกชนไม่มีปัญหา สินค้าอาหารพร้อมรับประทานที่มีเนื้อหมูเป็นวัตถุดิบซึ่งราคาสูงกว่าหมูหน้าฟาร์ม 10 – 12 เท่ายังจำหน่ายได้ แต่ภาครัฐกลับกดราคาขายของผู้เลี้ยง


นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ สคช. รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ภายในประเทศในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ซึ่งขยายตัว 1.5% จากแรงส่งของการบริโภคภายในประเทศและการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่กลับกลายเป็นว่า GDP ภาคเกษตรติดลบถึง 3.5%

จากการติดตาม GDP ภาคเกษตรตั้งแต่ปี 2566 พบว่า ไตรมาส 1/2566 บวกสูงสุด แต่หลังจากนั้นโตต่ำมาโดยตลอด ในไตรมาส 1/2566 ที่ GDP ภาคเกษตรบวกสูงสุด สอดคล้องราคาสุกรขุนที่ยังสูงใกล้เคียงต้นทุนการผลิตในช่วงนั้น


สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติตั้งข้อสังเกตว่า การเติบโตของ GDP การบริโภคภาคเอกชนสะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมการบริโภคของคนไทยเปลี่ยนไป ไม่ได้ติดขัดในเรื่องของราคาสินค้า ดังจะเห็นได้ว่า สินค้าอาหารพร้อมรับประทานที่ใช้วัตถุดิบจากเนื้อสุกรจะมีราคาสูงขึ้น 5 – 8 เท่าจากราคาจำหน่ายปลีกและสูงกว่าราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม 10-12 เท่า แต่ความต้องการบริโภคในกลุ่มของ Food service ที่มีสินค้าเนื้อสุกรเป็นวัตถุดิบหลักยังเติบโตสูงมาก

ในทางตรงกันข้าม ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มจะถูกภาครัฐกดไว้เช่นเดียวกับราคาภาคปศุสัตว์อื่นๆ เช่น ไก่ ไข่ เป็นต้น โดยมักกังวลว่า จะมีการโจมตีทางการเมืองว่า แก้ปัญหาปากท้องของประชาชนไม่ได้จึงใช้วิธีกดราคาสินค้าการเกษตรโดยเฉพาะภาคปศุสัตว์

ทั้งที่จริงแล้ว การดูแลราคาสินค้าภาคเกษตรทั้งหมด ที่เป็นตัวคูณปริมาณการผลิต จะส่งผลดีต่อ GDP ภาคเกษตร หากเกษตรกรขายผลผลิตได้สูงกว่าต้นทุนซึ่งจะส่งผลดีต่อการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องและลดภาระหนี้สินภาคครัวเรือนด้วย ส่งผลดีต่อ GDP ประเทศ


นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวย้ำว่า การแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนในนานาประเทศ ต่างมุ่งไปที่การพัฒนาอาชีพ การเข้าถึงรายได้ของทุกกลุ่ม และการพัฒนารูปแบบการประกอบอาชีพ รวมถึงการตลาดให้เข้ากับยุคสมัยเป็นหลัก ดังนั้นขอฝากให้ภาครัฐแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนอย่างมืออาชีพ โดยไม่ใช่ใช้วิธีควบคุมราคาสินค้าของภาคผู้ผลิตหรือราคาสินค้าเกษตรซึ่งสะท้อนให้เห็นจาก GDP ในช่วง 5 ปีย้อนหลังของประเทศไทยที่ต่ำลงมาก เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน . 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น