“นายกหมู” ขอรัฐตรวจสอบหมูเถื่อนตกค้างในเขตปลอดอาการ

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติขอให้ดีเอสไอขยายผลตรวจสอบเขตปลอดอากรเพื่อดำเนินคดีขบวนการ “หมูเถื่อน” อย่างเด็ดขาด พร้อมขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบซ้ำ ทั้งตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างในท่าเรือทุกแห่ง โดยเฉพาะท่าเรือคลองเตย รวมถึงห้องเย็นทั่วประเทศเพื่อให้มั่นใจว่า ปลอด “หมูเถื่อน” ที่จะเป็นปัจจัยกดดันราคาของผู้เลี้ยงที่ยังคงอยู่ในภาวะขาดทุนนานกว่า 1 ปี


นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า ได้ติดตามการปฏิบัติงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการเข้าตรวจค้นซ้ำที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 เป็นการขยายผลจากการจับกุมหมูเถื่อน 161 ตู้ เมื่อปลายปี 2566 ซึ่งพบ “หมูเถื่อน” 17 ตู้คอนเทนเนอร์นั้น สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติต้องการให้ดีเอสไอขยายผลการตรวจสอบเขตปลอดอากรของกรมศุลกากรเนื่องจากยังคงกังวลว่า อาจมีการระบายระบายหมูเถื่อนออกมา

ทั้งนี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ทำหนังสือถึงดีเอสไอแจ้งถึงข้อกังวล 6 ข้อ ประกอบด้วย


  1. ปริมาณการซื้อ-ขายสินค้าสุกรในเขตปลอดอากร ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 ได้มีการนำสินค้าประเภทซากสัตว์ ประเภทสุกร เครื่องในโค ตีนไก่ เข้ามาในประเทศไทย รวม 3,469 ตู้ (ล่าสุดดีเอสไอแจ้งว่า รวมเพิ่มเป็น 5,900 ตู้) ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับเลขคดีพิเศษ 126/2566 ที่มีการนำเข้าช่วงปี 2564-2566 จำนวน 2,388 ตู้ จาก 2,385 ใบขนสินค้าขาเข้า ที่เป็นความผิดที่เกิดขึ้นย้อนหลัง ซึ่งต้องขยายผลในลักษณะเดียวกันกับที่เป็นความผิดต่างกรรมและมีจำนวนครั้งของการกระทำความผิดสูงมาก
  • จำนวนลูกค้าผู้ซื้อต่อในประเทศไทยจากผู้กระทำความผิดในเขตปลอดอากรดังกล่าว จากประมาณ 100 ราย ของกลุ่มบริษัทในเขตปลอดอากรดังกล่าว ยังไม่มีการขยายผลแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวนได้เก็บหลักฐานดังกล่าวมาไว้ในวันที่นำหมายเข้าตรวจและประเมินปริมาณการซื้อขาย 3 ปีย้อนหลัง มีจำนวนถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในจำนวนลูกค้ามียอดซื้อขายสะสมสูงถึง 6,000 ล้านบาท โดยลูกค้าในกลุ่มนี้ถือว่า เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดเช่นกัน ที่สามารถนำมาดำเนินคดี และยึดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงิน เพราะสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมสุกรไทยอย่างมาก
  • การกระจายสินค้าผิดกฎหมายในเขตอากรดังกล่าว จะกระทำในลักษณะของการนำสินค้าออกไปยังประเทศที่ 3 แต่ใช้การขนย้ายกลับเข้าประเทศ ในลักษณะกองทัพมด นำไปกระจายตามห้องเย็นต่างๆ ทั่วประเทศ  จึงควรจขยายผลนำรายชื่อห้องเย็นในเครือข่าย มาตรวจสอบว่า รับรู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งน่าจะติดตามได้ไม่ยาก หลังมีการขึ้นทะเบียนห้องเย็น ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ตามโครงการการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการห้องเย็นตั้งแต่ 1 ตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นไป ตามนโยบายการปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมายที่มีกรอบเวลาที่สิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
  • ยังไม่มีการตรวจสอบย้อนหลังไปถึงการขออนุญาตประกอบการเป็นเขตปลอดอากร ซึ่งเป็นอำนาจการอนุมัติของอธิบดีกรมศุลกากร  และสืบสวน สอบสวนกระบวนการตรวจสอบ หลังการได้รับการอนุมัติเป็นผู้ประกอบการในเขตปลอดอากร ซึ่งถือว่า เป็นการกระทำความผิด ตามวัตถุประสงค์ของการขออนุญาตดังกล่าว
  • ในการนำหมายเข้าตรวจบริษัทผู้กระทำความผิดในเขตปลอดอากรดังกล่าว ไม่ปรากฏการอายัดสินค้าในเขตปลอดอากรที่มีจำนวนสูงมาก ซึ่งคาดว่าสินค้าในเขตปลอดอากรดังกล่าว จะยังคงมีการปล่อยออกสู่ตลาดและกดดันราคาสุกรขุน ที่เป็นการประกอบอาชีพของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรของไทยอย่างต่อเนื่อง
  • จากรายงานข่าวเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้บริหารสตรีท่านหนึ่งของบริษัทในกลุ่มที่เป็นเขตปลอดอากร มีความเชื่อมโยงถึงนายด่านกักกันท่านหนึ่ง (ของกรมปศุสัตว์)  จึงขอทราบความคืบหน้าของการตรวจสอบข้าราชการท่านนี้ เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียต่อกรมปศุสัตว์โดยรวม เพราะสำนวนที่มีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดที่ส่งไปยัง ป.ป.ช. 5 สำนวน (คดีพิเศษที่ 59/2566 ที่101/ 2566 ที่104/2566 ที่105/2566 และเลขคดีพิเศษที่ 106/2566) ยังไม่มีความคืบหน้า การทำความเห็น หรือ ส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ ซึ่งการกระทำความผิดโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเป็นความเสี่ยงต่อเนื่อง จากการอำนวยความสะดวกให้เกิดการกระทำความผิดที่จะกระทบถึงตลาดสุกรไทย

นายสิทธิพันธ์กล่าวว่า ต้องการให้หน่วยงานภารรัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ “หมูเถื่อน” ที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศซ้ำอีกครั้ง ทั้งในห้องเย็นและท่าเรือต่างๆ โดยเฉพาะท่าเรือกรุงเทพฯ หรือท่าเรือคลองเตยที่ยังมีตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงต้องการให้ยกระดับการตรวจสอบตู้สินค้านำเข้าเช่นเดียวกับที่ท่าเรือแหลมฉบัง

ผู้เลี้ยงสุกรขาดทุนต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปีจากการที่ “หมูเถื่อน” กดดันราคา ประกอบต้นทุนการผลิตที่สูงจากทั้งปัจจัยของราคาพลังงานและราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ขยับตัวสูงขึ้นมากจนมาอยู่ที่ 11.20 บาทต่อกิโลกรัมซึ่งจะทำให้ต้นทุนอาหารสัตว์ของการเลี้ยงสุกรจะสูงขึ้นอีก

ขณะที่ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มยังทรงตัว 68 – 76 บาทต่อกิโลกรัม ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตซึ่งอยู่ที่ 80-82 บาทต่อกิโลกรัม แม้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย แต่ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มไม่ได้ปรับเพิ่มเนื่องจากสภาวะฝนตกทั่วไทยกระทบการออกมาจับจ่ายของผู้บริโภค รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้การบริโภคชะลอตัว ทำให้ราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกรชิ้นส่วนสะโพก หัวไหล่ มีราคาจำหน่ายปลีกใกล้เคียงราคาจำหน่ายปลีกของเนื้อไก่แล้ว


ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำตามกฎหมายทุกคนเพราะหมูเถื่อนเป็นปัจจัยทำให้เกิดหมูส่วนเกินที่กดดันราคาในตลาด เกษตรกรไทยไม่สามารถแข่งขันได้จึงจำเป็นต้องปราบปรามให้หมดสิ้น เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางอาหารของคนไทยและสนับสนุนให้ผู้เลี้ยงประกอบอาชีพได้ต่อไป. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]