รัฐบาล กำชับความพร้อมและความปลอดภัยประชาชนกลับภูมิลำเนา

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาล กำชับความพร้อมและความปลอดภัยวางกรอบข้อปฏิบัติ รองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังสถานกาณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มคลี่คลาย นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ภารกิจสำคัญของรัฐบาลในขณะนี้คือการดูแลความปลอดภัย และพาประชาชนกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยในพื้นที่ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าปลอดภัย 100% และมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จำเป็นต้องย้ายไปเข้าพักพิงที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งอาจเกิดข้อจำกัดและความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มเปราะบาง นายอนุกูล กล่าวว่า สำหรับการเดินทางกลับที่พักอาศัยนั้น ในบางพื้นที่อาจเผชิญระดับสถานการณ์ที่ไม่เท่ากัน ดังนั้น หากประชาชนมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับ กระทรวงสาธารณสุขมีข้อแนะนำในการปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ 1.ให้ตรวจสอบความพร้อมของบ้านพักหรือที่อยู่อาศัยอย่างละเอียด อาทิ ด้านโครงสร้างบ้าน ผนัง หลังคา และระบบไฟฟ้า 2.ทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านเพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค 3.สังเกตสภาวะทางจิตใจของตนเองและคนในครอบครัว หากรู้สึกว่ามีอาการเครียด วิตกกังวล หรือมีอาการคล้ายซึมเศร้า ควรเข้ารีบเข้าปรึกษาแพทย์/เจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยทันที และ 4.หมั่นดูแลสุขอนามัยที่ดี ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่และดื่มน้ำที่สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งหมั่นดูแลความสะอาดด้านสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเข้าร่วมกิจกรรมยามว่างเพื่อสร้างความผ่อนคลายและลดความเครียด โดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทีมดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงเต็มที่ ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต อนามัยสิ่งแวดล้อม “ทั้งนี้ การปฏิบัติตามข้อแนะนำของศูนย์พักพิงชั่วคราว เช่น เก็บของใช้ส่วนตัวให้เป็นระเบียบ […]

“ภูมิธรรม” เตรียมลงพื้นที่ศรีสะเกษพร้อม “มาริษ”

ก.มหาดไทย 8ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมลงพื้นที่ศรีสะเกษ พร้อม “มาริษ” ดูความเสียหายพื้นที่-ข้อเท็จจริง ย้ำให้ประชาชนกลับบ้านได้ กองทัพภาค 2 – ผู้ว่าฯ เอาความปลอดภัยเป็นหลัก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่ไปในจังหวัดศรีสะเกษในวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.68) ว่า จะเดินทางไปพร้อมนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยจะลงพื้นที่ไปดูสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย เช่น ปั๊มน้ำมันที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากมีการระบุว่ายังไม่ได้รับการดูแล และหากสามารถเข้าพื้นที่ได้จะเข้าไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลที่ได้รับความเสียหาย โดยแนวทางการลงพื้นที่นั้นจะประสานไปยังพื้นที่ก่อนว่ามีความพร้อมหรือไม่เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แต่หากไม่มีความพร้อม หรือยังมีปัญหาอยู่ ก็ไม่มีมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าพื้นที่ จะใช้กำลังเฉพาะส่วนแนวหลังที่เป็นไปได้ นายภูมิธรรม ระบุได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ทหารขอให้ทำหน้าที่อย่างเข้มงวดเช่นเดิม ส่วนอื่นๆถ้าไม่มีปัญหาอะไรไม่ต้องให้การต้อนรับใดๆ ทั้งสิ้นให้ว่าไปตามเนื้อผ้า นอกจากนี้จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ตามที่มีกระแสข่าวว่า ไม่ได้รับงบประมาณ ในการเยียวยาดูแลประชาชน รวมถึงจะลงพื้นที่ไปยังรพ.สต.ชำเม็ง ตำบลธงชัย เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปเห็น ข้อเท็จจริง และสามารถนำเรื่องไปพูดคุยในวงเจรจาจะได้เห็นเป็นรูปธรรม นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะลงไปดูศูนย์อพยพ ที่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก แม้มีบางส่วนทยอยกลับบ้านแล้ว แต่ขอย้ำว่า ยังไม่มีประกาศให้เดินทางกลับบ้าน เนื่องจากขณะนี้ได้ให้กองทัพภาคที่ 2 […]

รัฐบาลมอบ 7 รมต.ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิง

ทำเนียบ 8 ส.ค.-รัฐบาลมอบ 7 รมต.ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงทั้งหมด 4 จังหวัด 12 จุดพรุ่งนี้ เพื่อนำข้อมูลเชิงประจักษ์กลับมากำหนดรูปแบบเยียวยารอบที่สองเพิ่ม ทั้งกรณีบ้านเรือน ไร่นา สัตว์เลี้ยงที่เสียหายก่อนนำเข้าคณะรัฐมนตรีพิจารณา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ เผื่อรับฟังแนวทางในการกำหนดการเยียวยารอบสอง ที่เกี่ยวข้องกับบ้านเรือนที่เสียหายรวมทั้งพื้นที่ทางการเกษตร ปศุสัตว์ โดยการตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่พักพิงชั่วคราวทั้งหมด 12 แห่ง ใน 4 จังหวัด โดยรัฐมนตรีจะรับฟังแนวทางเพื่อมอบความช่วยเหลือ และให้กำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี โดยรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจะเดินทางไปพบปะพี่น้องประชาชนกว่า 30,000 คน ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง เสาร์-อาทิตย์ที่ 9-10 สิงหาคมนี้ โดยวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ศูนย์พักพิง ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน […]

ผู้อพยพใน จ.สุรินทร์ รอคำสั่งกลับบ้าน

สุรินทร์ 7 ส.ค. – ผู้อพยพใน จ.สุรินทร์ พร้อมกลับบ้าน หากได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด หลังทราบผลประชุม GBC ขณะที่วันนี้ “เสก โลโซ” มาเซอร์ไพรส์ ขับร้องเพลงคลายเครียดให้ผู้อพยพ.-สำนักข่าวไทย

กมธ.การปกครอง เชิญ “ผู้ว่าฯสุรินทร์-อุบลฯ-ศรีสะเกษ” แจงปัญหาการเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 6 ส.ค.-กมธ.การปกครอง เชิญ “ผู้ว่าฯสุรินทร์-อุบลฯ-ศรีสะเกษ” แจงปัญหาการเบิกจ่ายงบ ดูแลประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา ยกมีแต่สิ่งของบริจาคจากประชาชนด้วยกันเอง ของรัฐบาลมีแต่ตัวเลข บางที่เบิกได้-บางที่เบิกไม่ได้ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติวงเงินจังหวัดละ 100 ล้านบาท ซึ่งได้มีสส.ตั้งกระทู้สดถามรัฐมนตรี และรัฐมนตรียืนยันว่าสามารถที่จะเบิกจ่ายงบได้ ดังนั้นวันนี้ (6 ส.ค.) ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี ที่เป็นจังหวัดได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก รวมถึงกระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกรมบัญชีกลาง เพื่อติดตามนโยบายต่างๆของรัฐบาลที่ตั้งใจเอาเงินมาช่วยเหลือฉุกเฉินพิเศษมาช่วยเหลือประชาชนการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นอย่างไร ติดขัดหรือมีปัญหาตรงไหนบ้าง และสามารถเบิกจ่ายได้จริงตามที่รัฐมนตรีได้มาตอบกระทู้สดหรือไม่ นอกจากนี้ได้มีการเชิญสส.ในพื้นที่มารับฟัง และช่วยกันสะท้อนปัญหาให้กับทางกระทรวงมหาดไทยให้ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ทราบถึงปัญหาและแนวทางในทางแก้ไขต่อไป ส่วนจะดูงบประมาณที่ใช้ดูแลประชาชนที่เป็นเงินบริจาคด้วยหรือไม่นั้นนายกรวีร์ กล่าวว่า เป็นประเด็นเดียวกัน ทางรัฐบาลยืนยันว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ แต่ในข้อเท็จจริงหน้างานในหลายพื้นที่อำเภอ มีตัวเลขวงเงิน แต่เรื่องการเบิกจ่ายยังไม่มีการเบิกจ่ายออกมาได้มากเท่าที่ควร บางพื้นที่อาจจะมีการเบิกจ่าย หรือบางที่พื้นที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ […]

“อนุทิน” มองเบิกงบล่าช้าเหตุชายแดน เพราะเป็นพื้นที่ ภท.

ภูมิใจไทย 5 ส.ค. – “อนุทิน” แขวะรัฐบาลไม่ลงพื้นที่ชายแดน จะรู้ปัญหาได้ไง บอกผู้ว่าฯ รายงานเจื้อยแจ้ว แต่หน่วยปฏิบัติไม่มีแนวทางเบิกงบ รับล่าช้าเพราะเป็นพื้นที่ภูมิใจไทย  นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ยังไม่ได้เดินทางกลับที่อยู่อาศัย ตอนแรกตั้งใจจะเดินทางกลับแต่สุดท้ายผู้ว่าราชการจังหวัด ให้กลับมาที่ศูนย์พักพิงเหมือนเดิม ปัญหาของประชาชนในพื้นที่ชายแดนนั้นกลับช้า และไม่ดูแลอย่างเต็มที่ ที่ได้รับรายงานจากผู้ว่าฯ แต่ควรที่จะถามนายอำเภอในพื้นที่ เพราะกว่าจะเบิกงบประมาณได้ในแต่ละครั้ง ลำบากแสนสาหัส แต่ก็โชคดีที่มีประชาชนจากพื้นที่ทั่วประเทศช่วยกันส่งของบริจาค  นายอนุทินกล่าวต่อว่า ส่วนใหญ่ค่ายอพยพทั้งหมดเป็นสิ่งของบริจาคเกือบทั้งหมด ถ้าไปหวังแต่เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ตนคิดว่าจะมีปัญหากว่านี้มาก เรื่องที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีรายงานในรัฐสภา ก็รายงานเจื้อยแจ้วไปแบบนั้น ของจริงต้องไปลงหน้างาน แต่คณะรัฐมนตรีไม่มีใครไปลงหน้างาน ซึ่งตนอยู่ในพื้นที่ก็เห็น เป็นไปตามที่เขาพูดไว้  ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ผู้ว่าฯบอกว่าเบิก และโอนเงิน ให้อำเภอแล้ว แต่ยังไม่มีแนวทางในการเบิกงบประมาณให้กับหน่วยงานที่ปฏิบัติ แต่สุดท้ายตนก็เชื่อว่าจะเบิกได้ แต่หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนที่มีจิตศรัทธา คงมีความโกลาหล วุ่นวาย และเดือดร้อนมากกว่านี้อีกมาก ถือเป็นเรื่องโชคดีที่เรายังสามารถบริหารจัดการของบริจาคที่ประชาชนนำมามอบให้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสารอาหารแห้ง ของสดต่างๆ เครื่องอุปโภคบริโภค  เมื่อถามว่า นายภูมิธรรม ยืนยันว่าหน้างานไม่มีปัญหา นายอนุทินกล่าวว่า […]

จี้รัฐบาลเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบเหตุชายแดน

กทม 3 ส.ค.- “มาดามหยก” จี้รัฐบาล เร่งเยียวยาประชาชน-ทหารที่ได้รับผลกระทบเหตุชายแดน ลั่น “ก้าวอิสระ” ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่กระสุนนัดแรก ลุยส่งสิ่งของจำเป็น นางสาวกชพร เวโรจน์ หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ (Indy) เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขณะนี้แม้ว่าเหตุการณ์จะสงบ ไม่มีการปะทะ แต่เรายังคงวางใจไม่ได้ เพราะอาจจะมีเหตุปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นในส่วนของประชาชนที่อยู่ศูนย์พักพิง ควรจะรอสถานการณ์ให้แน่ชัดก่อน อย่าเพิ่งกลับบ้านตัวเอง เพราะกัมพูชาเราไว้ใจไม่ได้อยู่แล้ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน เพราะประชาชนเหล่านี้สูญเสีย ทั้งทรัพย์สิน บ้านเรือน บางคนสูญเสียบุคคลในครอบครัว ทั้งบาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งทำให้หมดกำลังใจเกิดความเครียด วิตกกังวล และบางคนมีความเสี่ยงที่ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้นการเยียวยาจากรัฐบาล ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นขอให้รัฐบาลให้ความชัดเจนกับประชาชนโดยเร็ว เพราะประชาชนนับแสนคนที่อพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงเขายังมืดแปดด้าน ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไรต่อไป จะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ นางสาวกชพร กล่าวต่อว่า ส่วนคนที่ชอบด้อยค่าทหาร โดยเฉพาะพรรคการเมืองบางพรรค ตนอยากให้หยุดก่อน เราควรหันมาสามัคคีกันก่อน เพราะชั่วโมงนี้ถ้าไม่มีทหาร เราคงไม่สามารถที่จะกินอิ่ม นอนหลับกันได้ ทหารที่อยู่ชายแดนลำบากมาก การสูญเสียนายทหารถึง 15 นาย ที่ได้สละชีพเพื่อชาติรวมถึงประชาชนทั้งบาดและเสียชีวิตนับสิบ เป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น […]

คณะ สว. ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ให้กำลังใจผู้อพยพในศูนย์พักพิง

2 ส.ค. – สว.จัดกิจกรรม “วุฒิสภา” พบประชาชน ลงพื้นที่ศรีสะเกษ มอบกำลังใจผู้อพยพ หลังได้รับผลกระทบปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งเป้ารับฟังปัญหาไปในตัว ยันจะประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลเต็มที่ คณะสมาชิกวุฒิสภาภายใต้ “โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน” ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้อพยพชั่วคราว จ.ศรีสะเกษ เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา คณะสมาชิกวุฒิสภา นำโดย นายธวัช สุระบาล สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภาอีก 4 ท่าน ได้แก่ นายอิสระ บุญสองชั้น นายธนภัทร ตวงวิไล นายจรุณ กลิ่นตลบ และนางสุมิตรา จารุกำเนิดกนก คณะสมาชิกวุฒิสภาได้พูดคุยกับประชาชน สอบถามถึงความเดือดร้อนและสภาพความเป็นอยู่ พร้อมทั้งกล่าวให้กำลังใจ ยืนยันว่าวุฒิสภาและหน่วยงานภาครัฐไม่ได้ทอดทิ้ง และกำลังทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ คณะสมาชิกวุฒิสภายังได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนในศูนย์พักพิงฯ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ นายธวัช สุระบาล กล่าวว่า “การลงพื้นที่ในวันนี้ นอกจากจะมาเพื่อมอบกำลังใจแล้ว ยังเป็นการมารับฟังปัญหาและความต้องการของพี่น้องประชาชนโดยตรง เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงจุด เราทุกคนมีความห่วงใยในความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของพี่น้องทุกคน และขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านเข้มแข็งและผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยดี“ . -312สำนักข่าวไทย

รัฐบาลเฝ้าระวังโรคในศูนย์พักพิงชายแดน

ทำเนียบ 30 ก.ค.-รัฐบาลเฝ้าระวังโรคในศูนย์พักพิงชายแดน คุมเข้มไข้หวัดนกจากกัมพูชา ป้องกันไข้เลือดออกใน จ.ศรีสะเกษ อย่างรัดกุม นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยในสถานการณ์ด้านสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่อยู่ในศูนย์พักพิง ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ รัฐบาล โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงเร่งดำเนินมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้นและรอบด้าน ในเบื้องต้น ได้มีการจัดส่งวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ลงพื้นที่ศูนย์พักพิง พร้อมทั้งแจกจ่ายหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และเน้นย้ำให้มีการปรุงอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ทุกมื้อ รวมถึงรณรงค์การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ ในกรณีที่พบผู้ป่วยโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการแยกตัวออกจากผู้อื่นและนำส่งสถานพยาบาลทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในประเทศกัมพูชาอย่างใกล้ชิด โดยพบว่ามีผู้ป่วยสะสมในปี 2568 จำนวน 13 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 ราย ทั้งหมดติดเชื้อสายพันธุ์ H5N1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์รุนแรง แม้ประเทศไทยจะไม่พบการติดเชื้อไข้หวัดนกในคนมานานกว่า 19 ปี แต่รัฐบาลยังคงใช้มาตรการเชิงรุกภายใต้แนวคิด “สุขภาพหนึ่งเดียว” (One Health) โดยประสานความร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อข้ามพรมแดน สำหรับโรคไข้เลือดออก ซึ่งพบการระบาดสูงสุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคม […]

ประชาชนที่ศูนย์พักพิง เครียด 600 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 142 คน

ทำเนียบ 30 ก.ค.-ศบ.ทก. เผยยอดพลเรือนเสียชีวิต 15 ราย จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน สธ. ส่งทีมบุคลากรการแพทย์ เข้าดูแลสุขภาพจิตประชาชนที่ศูนย์พักพิง พบมีความเครียด 600 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 142 คน นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย- กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ข้อมูลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ณ วันที่ 30 กรกฎาคม เวลา 10:00 น. พลเรือนที่ได้รับผลกระทบ 53 ราย เสียชีวิต 15 ราย ที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์พลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีจำนวน 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 13 รายปัจจุบันมีพลเรือนกำลังแอดมิทในโรงพยาบาล 11 ราย เคสที่สาหัส 8 ราย และบาดเจ็บปานกลาง […]

“หงส์ไทย” ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา จ.บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 28 ก.ค. – “หงส์ไทย” ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งต่อกำลังใจ พร้อมน้ำใจคนไทย ณ ศูนย์พักพิง จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากพื้นที่ บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว จ.บุรีรัมย์ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 25-26 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยนำข้าวกล่อง น้ำดื่ม นมสำหรับเด็ก และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยหงส์ไทย อาทิ ยาดมสมุนไพร เพื่อช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า ความเครียด จากสถานการณ์ความไม่สงบ โดยมีทีมงานจิตอาสาลงพื้นที่แจกจ่ายสิ่งของจำเป็นให้กับผู้อพยพ นายธีระพงศ์ ระบือธรรม ประธานผู้ก่อตั้งบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทคนไทย เราเชื่อมั่นว่า ธุรกิจควรเป็นพลังที่ช่วยเหลือสังคมในยามวิกฤต หงส์ไทยขอร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้พี่น้องผู้ประสบภัยผ่านพ้นเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัยและเข้มแข็ง เราจะไม่ทอดทิ้งกัน”.-111-สำนักข่าวไทย

พี่น้องชาวตราดผ่อนคลายมากขึ้นในศูนย์พักพิง

ตราด 28 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 3 อพยพประชาชนในพื้นที่ จ.ตราด มายังศูนย์อพยพ พบประชาชนผ่อนคลายมากขึ้น พร้อมเขียนโน้ตรูปหัวใจส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายปลอดภัย ผู้สื่อข่าวได้ลงสำรวจพื้นที่ในวันนี้ พบว่าประชาชนดูสดใส และผ่อนคลายมากขึ้น เพราะเมื่อคืนมีทหารจากกองพลนาวิกโยธิน ค่ายตากสินมาเล่นดนตรีให้ประชาชนฟังเพื่อผ่อนคลาย เช้านี้ก็มีผู้บริจาคนำไอติม และขนมมาแจกเด็กๆอีกจำนวนมาก ในขณะเดียวกันทางหน่วยปฐมพยาบาลก็ได้ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ เช้านี้มีผู้ป่วยที่ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล 2 คน เป็นคุณแม่ที่ปวดท้องใกล้คลอด กับชาวบ้านอีก 1 คน ที่ต้องส่งตัวไปตรวจเรื่องของหัวใจ เพราะว่ามีอาการนอนไม่หลับมา 3 คืน จากการตรวจวัดเบื้องต้น มีความดันสูง และหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เจ้าหน้าที่หน่วยปฐมพยาบาล บอกว่า อาจเกิดจากความเครียดเพราะว่าเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงที่บ้าน จึงทำให้มีภาวะดังกล่าว แล้วก็ยังคงพูดอยู่ตลอดเวลาว่าอยากกลับบ้านแล้ว อยากให้สถานการณ์สงบโดยเร็ว เจ้าหน้าที่หน่วยปฐมพยาบาลยังบอกอีกว่า ตั้งแต่มีการอพยพ ก็พบผู้ป่วยที่ต้องส่งโรงพยาบาลทุกวัน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในเด็กส่วนมากจะเป็นอาการตัวร้อน ไข้ขึ้น ในผู้ใหญ่จะเป็นอาการปวดเมื่อยตามตัว และเวียนหัว ในวันแรกที่มีการอพยพมา ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 คน เมื่อวาน 3 คน และเช้าวันนี้อีก 2 คน […]

1 2 3 4
...