ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม
โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final Act อย่างไรก็ดี การโจมตีด้วยอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุและไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชาได้ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตประชาชนและความเสียหายต่อสาธารณูปโภคของไทย ทำให้กองทัพไทยมีความจำเป็นต้องดำเนินการตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาเพื่อปกป้องตนเอง (self-defense) อย่างเหมาะสมและได้สัดส่วนตามกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยยืนยันพันธกรณีภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง และพร้อมใช้กลไกหารือทวิภาคีที่มีอยู่เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป”
นอกจากนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยยังได้ใช้โอกาสนี้ ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงของไทยในระดับภูมิภาคด้วยการแสดงความพร้อมของไทยในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียนเพียงหนึ่งเดียวในกรอบ OSCE ในการเป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับ OSCE ผ่านกิจกรรม การประชุมเชิงปฏิบัติการ การฝึกอบรม และการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญในประเด็นที่เป็นความสนใจร่วมกัน ได้แก่ การต่อต้านการหลอกลวงทางออนไลน์ ความมั่นคงทางไซเบอร์ การต่อต้านการค้ามนุษย์ การจัดการชายแดน ความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อม และความร่วมมือภายใต้กรอบ ASEAN Regional Forum (ARF) ตลอดจนหารือกับผู้แทนจากประเทศสมาชิกยุโรป ได้แก่ 1. เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำ OSCE 2. อธิบดีฝ่ายการเมือง กระทรวงการต่างประเทศลักเซมเบิร์ก และ 3. รองอธิบดีฝ่ายการเมือง กระทรวงการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงในภูมิภาค และแนวทางการส่งเสริมบทบาทของไทยในเวทีความร่วมมือระดับสากล
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ยังได้ประกาศความพร้อมของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 2026 OSCE Asian Conference ร่วมกับฟินแลนด์ ภายใต้หัวข้อหลักคือ “การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงทางออนไลน์” ซึ่งจะต่อยอดจากผลลัพธ์ของการประชุมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ “Combatting Online Scams” และการประชุม 2025 OSCE Asian Partners for Co-operation Group (APCG) ที่ไทยร่วมจัดกับ OSCE เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2568 ณ กรุงเวียนนา รวมทั้ง ไทยได้บริจาคเงินอุดหนุนเข้ากองทุน Helsinki+50 ในโอกาสครบรอบ 25 ปีแห่งความเป็นหุ้นส่วนไทย–OSCE เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการดำเนินงานของ OSCE ให้บรรลุวัตถุประสงค์ และยืนยันบทบาทของไทยในเวทีความมั่นคงระหว่างภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
“รัฐบาลไทยจะไม่ยอมจำนนต่อความบิดเบือนหรือการกล่าวหาโดยปราศจากข้อเท็จจริง พร้อมยืนหยัดบนเวทีโลกด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ยึดหลักสากลอย่างมั่นคง และเดินหน้าทำงานเชิงรุกเพื่อให้ประชาคมโลกเห็นภาพความจริงที่ว่า ไทยปกป้องประชาชนของตนอย่างมีเหตุผล และยังเปิดกว้างต่อการแก้ปัญหาโดยสันติ” นายจิรายุ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย