8 พ.ย. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ สนธิกำลังกับหลายหน่วยงาน บุกตรวจห้องเย็นแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พบเก็บซากสัตว์ซึ่งไม่มีแหล่งที่มา ทั้งหมู ควาย เป็ด ไก่ และนกกระทา รวมกว่า 53,000 กิโลกรัม หรือ 53 ตัน จึงยึดอายัดซากสัตว์ทั้งหมด เตรียมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกจัดชุดเฉพาะกิจประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์เขต 6 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองพิษณุโลก และด่านกักกันสัตว์พิษณุโลกบูรณาการกับสำนักงานสาธารณสุขพิษณุโลก สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานประมงจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานวิจัยพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 หน่วยงานความมั่นคง กอร.มน. ทหาร ตำรวจ และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์เข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
จากการตรวจสอบ พบซากสัตว์ที่ไม่มีแหล่งที่มา เก็บในห้องเย็นดังกล่าว น้ำหนักรวม 53,052 กิโลกรัม ประกอบด้วย
- ซากสุกร 39,444 กิโลกรัม (หัว 24,749, หมูหัน 3,186, เนื้อ 5,566, คากิ 3,408, ขา 2,536)
- ซากกระบือ (หนัง) 8,123 กิโลกรัม
- ซากไก่ 1,394 กิโลกรัม
- ซากเป็ด 110 กิโลกรัม
- ซากนกกระทา 3,981 กิโลกรัม
จากการสอบถามผู้จัดการห้องเย็น ได้รับแจ้งว่า เจ้าของห้องเย็นอยู่จังหวัดราชบุรี โดยใช้ห้องเย็นเป็นที่รับฝากสินค้าและไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ โดยผู้จัดการห้องเย็นไม่สามารถนำเอกสารการเคลื่อนย้ายซากสัตว์มาแสดงได้ สารวัตรกรมปศุสัตว์จึงได้ทำการยึด/อายัดซากดังกล่าวไว้ทั้งหมด โดยให้ผู้จัดการห้องเย็นแจ้งให้เจ้าของสินค้านำเอกสารมาแสดงยืนยันแหล่งที่มาของซากสัตว์ต่อสารวัตรกรมปศุสัตว์ภายในระยะเวลา 7 วันทำการ
หากไม่สามารถนำมาแสดงได้ จะแจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองพิษณุโลกในข้อหาการกระทำผิดตามพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 และ 34 ฐานเคลื่อนย้ายซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ
นายสัตวแพทย์สมชวนกล่าวว่า กรมปศุสัตว์เฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างเข้มงวด พร้อมกับตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์อย่างจริงจัง ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เนื่องจากปัญหาดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ของไทยทั้งระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรรายย่อย รวมถึงอาจก่อให้เกิดการแพร่ของโรคระบาดสัตว์ ตลอดจนทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงที่จะบริโภคสินค้าปศุสัตว์ที่ไม่มีคุณภาพและมาตรฐาน กรมปศุสัตว์จึงเร่งแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยหากพบการกระทำผิดจะพิจารณาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ากประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.dld.go.th