ออกหมายจับมือยิงถล่มบ้านคู่อริ 16 นัด

กทม. 14 ส.ค.- ออกหมายจับ “มอส คลองขวาง” มือยิงถล่มบ้านคู่อริ 16 นัด ตำรวจเร่งล่าตัว คาดหนีไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนสนิท


พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออนุมัติศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับนายมีน หรือ มอส คลองขวาง แล้ว ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนเพื่อนที่ร่วมกันก่อเหตุ ตามภาพจากกล้องวงจรปิด อีก 1 คน อยู่ระหว่างยืนยันตัวบุคคล และจะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีด้วยต่อไป

พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.หนองค้างพลู และ กก.สส.บก.น.9 ทำการตรวจสอบประวัติ ของนายมีน หรือ “มอส คลองขวาง” ผู้ต้องหารายนี้ ทราบว่าเมื่อปี 2559 เคยถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ จับกุมข้อหาร่วมกันกับพวกก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ติดคุกพ้นโทษออกมาไม่นาน พฤติกรรมชอบพกพาอาวุธปืนตลอดเวลา โดยพยานปากสำคัญซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มระบุว่า นายมีนชอบพกพาอาวุธปืนบรรจุกระสุนลูกดก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อซิกซาวเออร์ รุ่น P320 ซึ่งเป็นปืนมีทะเบียนถูกต้อง แต่ยังไม่ได้ทำเรื่องรับโอน ติดตัวพกพาไปไหนมาไหนตลอดเวลา จำนวน 1 กระบอก


ทั้งนี้ หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตามจับกุมนายมีนที่บ้านพักย่านคลองขวาง เพชรเกษม 69 แล้วแต่ไม่พบ ประกอบกับเจ้าตัวได้ปิดเฟซบุ๊ก ปิดทุกช่องทางการติดต่อสื่อสาร หายไปพร้อมกับรถยนต์สีเหลือง ส่วนผู้ที่ร่วมเดินทางไปก่อเหตุ คาดว่าเป็น นายฟลุ๊ค (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุ 20-23 ปี ลูกน้องคนสนิท เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างหาเบาะแสเช่นกัน

มีรายงานว่า สำหรับนายมีน หรือ “มอส คลองขวาง” ผู้ต้องหารายนี้ นอกจากมีพฤติกรรมพกอาวุธปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา ยังเป็นคนมีพรรคพวกเยอะ ฝ่ายสืบสวนเชื่อว่าขณะนี้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปอยู่กับเพื่อนสนิทบางกลุ่ม เนื่องจากมีเบาะแสว่าคืนวันที่ก่อเหตุ หลังจากที่เจ้าตัวสาดกระสุนใส่บ้านคู่กรณีแล้ว ยังท้าทายคู่กรณีด้วยการโทรศัพท์ติดต่อกลับมาเพื่อติดตามผลการกระทำ ในระหว่างที่คนในบ้านหลังดังกล่าวกำลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขณะที่นายมีนใช้โทรศัพท์ติดต่อกลับมาทราบว่ากำลังอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ มีเสียงดังเอะอะโวยวายพูดจาด่าทอและท้าทายคนในบ้านตลอดเวลา .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง