รองโฆษก ตร.ยันไม่เกิน 48 ชม. ออกหมายจับ “บอส-ดารา” ดิไอคอน

กรุงเทพฯ 11 ต.ค.-รองโฆษก ตร. ระบุไม่เกิน 48 ชม. เตรียมออกหมายจับกลุ่มผู้บริหาร-ดารา พัวพันธุรกิจตลาดตรง The iCon Group ขณะที่วันนี้ส่งบัญชีธนาคารกว่า 120 บัญชี ทั้งของกลุ่มบอส กลุ่มดารา และดาวน์ไลน์ ให้ ปปง.ตรวจสอบ


พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ หลังจากที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดปฏิบัติการร่วมกันเข้าตรวจค้นโกดังของ the icon group ซึ่งการตรวจค้น เป็นอำนาจของเจ้าพนักงาน สคบ. เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่มีเพียง 15 รายการ แต่กลับพบว่ามีรายได้ของบริษัท บางปีได้รายได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท รวมถึงหาข้อมูลทางธุรกิจว่าได้รับอนุญาตจาก สคบ. เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ และค้นหาข้อมูลการทำธุรกิจทั้งหมด ว่ามีสตอกสินค้าให้ประชาชนนำไปขาย หรือเป็นการหลอกอ้างว่ามีผลิตภัณฑ์แล้วให้มาลงทุนกันแน่

วันนี้ได้ส่งสมุดบัญชีธนาคารจำนวนกว่า 120 บัญชี ให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งจะเป็นบัญชีตั้งแต่กลุ่มลูกข่ายดาวน์ไลน์ ดารานักแสดง และผู้บริหาร ไปตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไรและเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่


พ.ต.อ.อุเทน ระบุว่า ตอนนี้ตำรวจและหน่วยงานเกี่ยวข้องทำงานกันตลอด นับเป็นรายชั่วโมง เพื่อรวบรวมหลักฐาน และยืนยันภายใน 48 ชั่วโมง จะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เมื่อถามต้องออกหมายเรียกก่อนหรือไม่ พ.ต.อ.อุเทน ระบุความผิดมีโทษเกิน 3 ปี สามารถออกหมายจับได้เลยทันทีและหมายจับที่ออกอาจจะเป็นกลุ่มผู้บริหาร หรือดาราที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเข้าองค์ประกอบการกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดในมูลฐานฟอกเงิน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ส่วนทรัพย์สินของกลุ่ม the icon group ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ไม่สามารถยักย้าย หรือขายต่อได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ตำรวจสามารถยึดอายัดมา เฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายได้ ซึ่งขั้นตอนการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายต้องดูขั้นตอนของ ปปง.

พ.ต.อ.อุเทน ระบุเพิ่มว่า การขายตรงสินค้ามันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ขายตรง คือการนำสินค้าไปขายให้กับผู้บริโภคโดยตรงอาจจะเป็นการเคาะหน้าบ้านหรือขายตามร้าน และอีกแบบคือ ขายตลาดตรง คือ การทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ใช่เป็นการเคาะประตู ซึ่งธุรกิจทั้ง 2 แบบ สามารถทำให้ถูกกฎหมายตามข้อกำหนดของ สคบ. แต่ก็จะมีเส้นบางๆ ระหว่างธุรกิจตลาดตรงและแชร์ลูกโซ่ คือ ต้องตรวจสอบว่าวิธีจำหน่ายสินค้าเป็นการโปรโมตหรือการระดมทุน ซึ่งเมื่อไหร่ที่มีการระดมทุนจะเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ หรือ พ.ร.ก.กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนเป็นความผิดตามมูลฐานการฟอกเงิน


ส่วนที่มีการรวบรวมผู้เสียหายให้ได้ 200 คนขึ้นไปนั้น พ.ต.อ.อุเทน มองว่า เป็นการรวบรวมผู้เสียหายให้เข้าหลักเกณฑ์ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ และล่าสุดมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้จำนวน 161 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 62 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเกิน 200 คนแน่นอน โดยสามารถเข้ามาแจ้งความได้ที่กองบังคับการปราบปรามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่หยุดเสาร์-อาทิตย์ รวมถึงตำรวจก็ทำงานร่วมกันตลอดทั้ง บก.ปคบ, สคบ., DSI และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จากกระทรวงการคลัง และ ปปง.ในการทำคดีดังกล่าวโดยเฉพาะ.-414- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี