เตือนเฝ้าระวังไข้เลือดออก ป่วยพุ่งหลายพื้นที่

กทม. 17 ก.ค. – เตือนประชาชนเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก หลังหลายพื้นที่พบจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น แนะกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย สังเกตอาการใกล้ชิดกรณีมีไข้สูงปวดศีรษะ-กล้ามเนื้อ และมีจุดเลือดออกตามลำตัวต้องรีบพบแพทย์


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนซึ่งสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการแพร่พันธุ์ของยุงลาย ทำให้หลายพื้นที่ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกซึ่งมียุงลายเป็นพาหะจำนวนมากขึ้น จึงขอเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังและร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้าน โรงเรียนและชุมชน

ทั้งนี้ ข้อมูลของกรมควบคุมโรคระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 มิ.ย. 2565 มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกทั่วประเทศ 5,196 คน เสียชีวิต 6 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ 15-24 ปี รองลงมา 10-14 ปี และ 25-34 ปี ตามลำดับ โดยผู้ป่วยกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายนอกจากป้องกันไข้เลือดออกแล้ว ยังสามารถป้องกันโรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกาได้ด้วย โดยประชาชนสามารถร่วมกันดูแลป้องกันได้ตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดเก็บกวาดเก็บบ้าน โรงเรียน แหล่งชุมชน ให้สะอาดไม่ให้ยุงลายเข้ามาเกาะพัก เก็บภาชนะกักเก็บน้ำให้มิดชิดเพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ เก็บขยะให้เรียบร้อยไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย รวมถึงการจัดกิจกรรมเสริมในการจัดการสิ่งแวดล้อมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในชุมชน

นอกจากนี้ หากมีบุตรหลานหรือคนในครอบครัวมีอาการไข้สูงให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีมีอาการ รับประทานยาแล้วไข้ไม่ลดหรือลดแล้วไข้กลับมาสูงอีก ร่วมกับอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา หรือมีจุดเลือดออกที่ลำตัว และแขน ขา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาลดไข้ในกลุ่มแอสไพริน และไอบูโพรเฟน แต่ควรรีบพบแพทย์

นอกจากนี้ หากมีอาการ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ เบื่ออาหาร ปวดท้องร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นการเจ็บป่วยร่วมกันระหว่างไข้เลือดออกกับโรคโควิด19 จะทำให้มีอาการทรุดหนักและรวดเร็วได้ เมื่อมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคที่เหมาะสม ลดความรุนแรงและการเสียชีวิต


ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการของไข้เลือดออก หรือโรคต่างๆ สามารถโทรศัพท์สอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง