กรุงเทพฯ 10 ก.ค. – “ศักดิ์สยาม” เดินหน้าบูม “สถานีกลางบางซื่อ” ต่อเนื่อง หลังเป็น “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” ครึ่งปีหลัง 65 ปั้นกิจกรรมทั้งอินดอร์-เอาต์ดอร์ “คอนเสิร์ต งานหนังสือ งานสัมมนา” ทุกประเภทรายเดือน หวังสร้างการรับรู้การเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลากสี-สร้างรายได้เชิงพาณิชย์
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้นโยบายกับบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (แอร์พอร์ต เรล ลิงก์) ให้จัดกิจกรรมที่สร้างการรับรู้ให้ประชาชนรู้จักสถานีกลางบางซื่อ และการเดินทางเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้าสีแดงไปยังรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วง และรถไฟฟ้าสีต่างๆ รวมถึงเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งทางผู้บริหารแอร์พอร์ตลิงก์ รายงานว่า ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ธ.ค.65 มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งในอาคารและนอกอาคาร บริเวณสถานีกลางบางซื่อ ตลอดครึ่งปี ซึ่งนอกจากทำให้ประชาชนเดินทางผ่านรถไฟฟ้าสายสีแดง และเชื่อมต่อการเดินทางไปยังรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีต่างๆ แล้ว การจัดกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับขนส่งสาธารณะ ก็จะสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ให้กับแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าวนั้น ทางแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้ดูต้นแบบมาจากการจัดกิจกรรมที่สถานีมักกะสัน ซึ่งพบว่าทำให้ประชาชนรู้จักสถานีมักกะสัน และเรียนรู้การเดินทางเชื่อมต่อระหว่างระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น ขณะเดียวกัน สามารถสร้างรายได้พื้นที่เชิงพาณิชย์ให้กับแอร์พอร์ตลิงก์ได้อีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ให้พื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ และเป็นที่รู้จักของประชาชนมาแล้ว
ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (แอร์พอร์ต เรล ลิงก์) กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องมีการจัดกิจกรรมบนพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เนื่องจากเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จักมากขึ้น รวมถึงเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายทั้งธุรกิจหลัก คือ การเดินรถ และธุรกิจใกล้เคียง คือ การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ เฉลี่ยกว่า 13,248 คน/วัน ส่งผลทำให้แอร์พอร์ตลิงก์มีรายได้กว่า 15 ล้านบาท/เดือน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเมื่อมีการจัดกิจกรรมทั้งในอาคารและนอกอาคารสถานีกลางบางซื่อ จะทำให้มีรายได้จากการขายตั๋วผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 40% ต่อเดือนที่มีการจัดกิจกรรม ส่วนรายได้เชิงพาณิชย์จากการให้เช่าสถานที่ต่อการจัดกิจกรรมจะมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 6.25% จากรายได้หลัก และในช่วงระยะกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ที่แอร์พอร์ตลิงก์เปิดจัดกิจกรรมที่สถานีมักกะสัน พบว่า สร้างรายได้หลักรวมกว่า 7,000 ล้านบาท โดยเป็นรายได้เชิงพาณิชย์และธุรกิจเกี่ยวข้องกว่า 600 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 60 ล้านบาท/ปี หรือเดือนละกว่า 6 ล้านบาท
สำหรับกิจกรรมที่จะดำเนินการจัดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ และกระตุ้นให้ประชาชนรู้จักสถานีกลางบางซื่อ ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ธ.ค.65 ประกอบด้วย 1. งาน CAT T-Shirt จัดโดย CAT Radio ซึ่งเป็นการจัดงานแสดงดนตรี คอนเสิร์ต จัดงานวันที่ 30-31 ก.ค.65 ส่วนเดือน ก.ย.65 จะมี 1. การจัดงานมหกรรมพลังงาน 4 ภาค ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 10,000 คน 2. งาน Plant Based Festival ซึ่งเป็นงานสำหรับคนรักสุขภาพ จัดโดย เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 15,000 คน
สำหรับเดือน พ.ย.65 จะมี 2 กิจกรรมใหญ่ ประกอบด้วย จัดงานคอนเสิร์ต โดย Muse Corporation คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 15,000 คน และงานนิทรรศการเชิงวิชาการ Smart Rail Thailand จัดโดย Asian Exhibition Service (AES) จัดงานวันที่ 24-25 พ.ย.65 คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 5,000 คน
ส่วนเดือน ธ.ค.65 มีงานสนามอ่านเล่น จัดโดย อมรินทร์ บุ๊ค คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 30,000 คน นอกจากนั้น ในปี 2566 ก็มีผู้จัดงานมาจองใช้สถานที่ จัดงานวิ่ง Fun Run “One Peach Run” ซึ่งจัดโดย DEX, Pico Thai คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 5,000 คน และในเดือน มี.ค.65 มีการจัดงาน Cat food จัดโดย CAT Radio ซึ่งงานดังกล่าวจะเปิดให้ดารา ศิลปิน มาขายอาหาร คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 30,000 คน เป็นต้น. – สำนักข่าวไทย