กรุงเทพฯ 6 ก.ค. -บล.ดีบีเอสหั่นเป้าดัชนีปีนี้เหลือ 1680 จุด แนะปรับพอร์ตตั้งรับวิกฤต-เปิดโผธีมลงทุนไตรมาส 3/65 “เปิดเมือง-เฮลท์แคร์-พลังงาน-EV-แบงก์” โดดเด่น
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จัดสัมมนาออนไลน์หัวข้อ ”ปรับพอร์ต รับวิกฤตหุ้นครึ่งปีหลัง” โดย นายธนวัฒน์ปัจฉิมกุล ผู้อํานวยการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในไตรมาส 3/2565 ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อสูงจะยังคงเป็นภัยคุมคามการลงทุนอยู่ ซึ่งจะหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อจนกว่าจะเห็นปัญหา ซัพพลายเชน ดีสรัปชั่น (Supply Chain Disruption) และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศคลี่คลาย
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส ได้มีการปรับประมาณการเศรษฐกิจหรือจีดีพี ในปี 2565 ใหม่ โดยปรับลดแนวโน้มจีดีพีประเทศสหรัฐอเมริกาลงเหลือ 2.5% จากเดิม 3% จีดีพีประเทศในยุโรปเหลือ 1.4% จาก 3% จีดีพีจีน เหลือ 4.8% จาก 5.3% ญี่ปุ่นเหลือ 1.6% จาก 2.2% ส่วนประเทศไทยคงคาดการณ์จีดีพีเติบโตเท่าเดิมที่ 3.5% “การปรับลดจีดีพีเป็นผลมาจากเราเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจะถดถอยกำลังแรงขึ้น สะท้อนจากส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐรุ่น 10 ปี และ 2 ปี เริ่มกลับมาใกล้ติดลบ ซึ่งบลูมเบิร์ก ได้ทำโมเดลคาดการณ์ชี้ว่าโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยถึง 98% ในระยะ 24 เดือนข้างหน้า แนวโน้มเศรษฐกิจและแนวโน้มการบริโภคทั่วโลก ถูกฉุดด้วยนโยบายเข้มงวดทั้งการเงิน-การคลัง รวมทั้งยังต้องจับตาจีนว่าจะผ่อนคลายนโยบายโควิดในเร็ว ๆ นี้หรือไม่” นายธนวัฒน์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มการลงทุน ในไตรมาส 3/2565 แนะนำเพิ่มน้ำหนักในหุ้นจีนและญี่ปุ่น เนื่องจากมองว่าหุ้นทั้งสองประเทศนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจ แนะนักลงทุนจัดพอร์ต โดยเน้นหุ้นคุณภาพ มีการกระจายรายได้ที่ดีทั้งด้านผลิตภัณฑ์และภูมิภาค ซึ่งเรายังชื่นชอบหุ้นจีน เพราะคาดผลตอบแทนคุ้มค่าความเสี่ยง รวมทั้งหุ้นญี่ปุ่น ส่วนหุ้นยุโรปแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุน ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ แนะนำกลุ่มที่มีเรตติ้งระดับ A/BBB และมีอายุตราสารประมาณ 3-5 ปี โดยให้ลดน้ำหนักหุ้นกู้ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เพราะมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงหรือความเสี่ยงในการลงทุนช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จะมาจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาล การเมืองระหว่างประเทศ เทคโนโลยี สภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม การลงทุนในอุตสาหกรรมเฉพาะมีความเสี่ยงสูงกว่าตลาดโดยรวม
ด้านนางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ตลาดหุ้นผันผวน ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดเป้าหมายดัชนีหุ้นปีนี้ลดลงเหลือที่ระดับ 1680 จุดจากเดิมที่บริษัทตั้งเป้าหมายดัชนีปีนี้อยู่ที่ระดับ 1800 จุด เนื่องจากมองว่าตลาดยังมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อสูง และวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงาน ธัญพืชและอาหารสูงขึ้น นอกจากนี้ตลาดยังมีความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจและรายย่อย ภายใต้เศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยพยุงจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการส่งออกที่ยังเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งประเทศไทยยังมีความมั่นคงทางอาหารสูง.-สำนักข่าวไทย