บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ชี้หุ้นไทยยังผันผวน 

กรุงเทพฯ  24 เม.ย.-บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ชี้หุ้นไทยยังผันผวน เงินสะพัดเลือกตั้ง-ท่องเที่ยวฟื้นดันหุ้นไทยขึ้นช่วงสั้น แนะเพิ่มน้ำหนักตลาดเอเชีย


นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวน โดยระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจาก เงินสะพัดจากการหาเสียงเลือกตั้ง ราว1-1.2 แสนล้านบาท ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และยังได้ปัจจัยบวกจากแนวคิดตลาดหลักทรัพย์ที่จะเสนอกระทรวงการคลัง ปัดฝุ่นนำกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund หรือ LTF ) กลับมาใช้ เพื่อให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี กระตุ้นให้เกิดการลงทุน 

อย่างไรก็ตาม ระยะกลาง และระยะยาว ตลาดหุ้นไทยยังเปราะบาง มีหลายปัจจัยลบรุมเร้าที่คอยกดดัน ปัจจัยภายนอก เช่น ปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐ และยุโรป ที่ทำให้ภาคธุรกิจและครัวเรือนเข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้นและปัญหาเงินเฟ้อ ถ้าลดลงช้าก็อาจทำให้ดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูงนานกว่าคาด เศรษฐกิจสหรัฐ และยุโรปชะลอตัวและอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะต่อไป ทั้งนี้ เฟดปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐปี 2023 จากเดิม 0.5% เป็น0.4% และ ปี 2024  เดิม 1.6% เหลือ 1.2%   ซึ่งความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกจะกระทบต่อภาคการส่งออก และภาคท่องเที่ยวของไทยตามไปด้วย นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงจากปัญหาประเทศฐานะการคลังที่อ่อนแอ มีหนี้สินอยู่ในระดับสูง ต้องเผชิญภาระดอกเบี้ยจ่ายมากในช่วงดอกเบี้ยแพง รวมทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อ และโรคระบาด 


ขณะเดียวกัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยแบบ K-Curve และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อาจส่งผลต่อความเสี่ยง NPL และตั้งสำรอง ECL สูงในระบบสถาบันการเงิน รวมถึงต้องติดตามการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่าจะใช้เวลามากกว่าคาดหรือไม่ ถ้าใช้เวลานานก็จะทำให้เกิดสูญญากาศทางการเมือง การลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนจะล่าช้าออกไป นอกจากนี้ การขึ้น-ลงของหุ้น DELTA  ก็มีผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนี ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน

นางสาวอาภาภรณ์ ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ ผลเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาล ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ และทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป จีน อาเซียน และไทย  สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้  ควรเน้นเก็งกำไรระยะสั้นไปก่อน ส่วนการซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำให้รอสะสมหุ้นพื้นฐานดีจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว

 โดยมี 7  ธีมเล่นสั้น และ ลงทุนยาว ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย 1.ธีมหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยใกล้จะถึงจุดสูงสุด(Peak)  2.ธีมราคาก๊าซ & ราคาถ่านหินร่วงแรง โดย หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า, วัสดุก่อสร้างบรรจุภัณฑ์ 3.ธีมท่องเที่ยวฟื้นตัว 4.ธีมเงินสะพัดจากการหาเสียงเลือกตั้ง 5.ธีมหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศแปรปรวน (Climate Change) 6.ธีมสังคมสูงวัย (Aging Society และ7.ธีมความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) 


ด้านนายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า การเลือกตั้งของไทยในปี 2023 จะกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ประมาณ 1.0-1.2 แสนล้านบาท ใน 2Q23 หรือคิดเป็น 0.5%-0.7% เมื่อเทียบกับ GDP  จากการประเมินของ ม.หอการค้าไทย (UTCC)  

หุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกจากการเลือกตั้ง เช่น  AOT ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับภาคท่องเที่ยว แนวโน้มกำไรฟื้นตัวสูง จากการยกเลิกให้ส่วนลดคู่ค้า มาร์จินสูงขึ้น รายได้จากสัมปทานเพิ่มมากขึ้น  ,หุ้น CPN คาดกำไรสุทธิปีนี้โต  จากการท่องเที่ยวฟื้นตัว  การให้ส่วนลดค่าเช่ากับร้านค้าน้อยลง มีการเปิดมอลล์ต่อเนื่อง  ,หุ้น AMATA  จะได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาลชุดใหม่   คาดยอดขายนิคม  เพิ่มขึ้น เป็นต้น

นายธนวัฒน์ ปัจฉิมกุลผู้อำนวยการบริหารฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าจะปรับขึ้นเพียง 0.25% แทนที่จะปรับขึ้น 0.50% เนื่องจากปัญหาในกลุ่มธนาคาร ขณะที่เงินเฟ้อเริ่มแผ่วลง แต่ยังคงสูงอยู่ในหลายประเทศโดยเฉพาะชาติตะวันตก ทำให้แนวนโยบายการเงินยังคงเป็นแบบเข้มงวด  ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจ มองว่าระบบการเงินสหรัฐและโลกน่าจะมีความแข็งแรงเพียงพอในการรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ยังต้องให้ความสำคัญกับการคุมเงินเฟ้อ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชียยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินว่าเศรษฐกิจจีนปีนี้โตดีกว่าที่เคยคาดไว้ จากนโยบายเปิดประเทศและมาตรการหนุนเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจในเอเชียได้แรงหนุนจากการขยายตัวเศรษฐกิจจีนไปด้วย  แนะนำ “Overweight” หุ้นเอเชีย โดยปัจจัยบวกคือการเปิดประเทศของจีน การใช้นโยบายหนุนบริษัทกลุ่ม platform และหนุนการบริโภคในประเทศ แต่โดยรวมแล้ว ยังให้ “Neutral” กับหุ้นโลกและหุ้นสหรัฐ เพราะดอกเบี้ยสูงอีกนานเป็นตัวถ่วง ส่วนตราสารหนี้ ยังคง Overweight เนื่องจากอัตราผลตอบแทนหรือ Yield ตราสารหนี้เอกชนเกิน 5% นับเป็นแหล่งสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ ช่วยลดความผันผวนพอร์ต .–สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย