สธ.เผยผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นบางพื้นที่ ไม่พบระบาดเป็นกลุ่มก้อน

สธ. 30 มิ.ย.- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคโควิด-19 ขณะนี้ มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวนผู้ป่วยหนักและใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ไม่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน และระบบสาธารณสุขมีการเตรียมความพร้อมสามารถรองรับผู้ป่วยได้ วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะกลุ่มเสี่ยง 608 และคนที่ยังรับวัคซีนไม่ครบ ให้รีบไปฉีดวัคซีนและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด


วันนี้ (30 มิถุนายน 2565) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในบางจังหวัด โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 27-29 มิ.ย. 65 มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,735 1,761 2,569 ราย ตามลำดับ ผู้ป่วยปอดอักเสบ จำนวน 610, 638, 665 ราย ตามลำดับ และผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 286, 290, 300 ราย ตามลำดับ จากจำนวนผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจมีรายงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่มักมีอาการน้อยไม่รุนแรง และผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เข้าระบบการรักษาในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยระดับสีเหลือง คือกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว ซึ่งอัตราการครองเตียงระดับ 2-3 หรือสีเหลืองและสีแดงต่ำกว่า 10% ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 65 จนถึงปัจจุบัน ระบบสาธารณสุขมีการเตรียมความพร้อมสามารถรองรับได้ทั้งเตียง แพทย์ ยา และเวชภัณฑ์

ทั้งนี้ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก รักษาสุขภาพให้แข็งแรง และปฏิบัติตามมาตรการ 2U คือ U ที่ 1 Universal Prevention คือ การป้องกันการติดโรค การเว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด หากพบมีอาการน่าสงสัยควรตรวจหาเชื้อ และ U ที่ 2 Universal Vaccination คือ ขอความร่วมมือให้มารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 เป็นพื้นฐาน และฉีดเข็มกระตุ้นต่อไปทุก 4 เดือน เพื่อยกระดับภูมิคุ้มกัน โดยเน้นในกลุ่มเสี่ยง 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ และกลุ่มดังกล่าวขอให้หลีกเลี่ยงการร่วมกิจกรรมที่มีคนรวมกลุ่มจำนวนมาก หลีกเลี่ยงโดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท และเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนสถานประกอบการต่าง ๆ ยังขอให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด ขณะ “สนธิ” โผกอด ลั่นลืมไปหมดแล้ว อวยพรกลับให้หายป่วยไว ๆ เดินหน้าขับไล่คนชั่วไม่ให้มีที่ยืนในสังคม

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

ประชุมลุ่มน้ำโขง

นายกฯ ยันไทยยึดหลัก 3Cs แชร์ผลสำเร็จ 30 บาทรักษาทุกที่

ไทยแลนด์โดดเด่นบนเวทีผู้นำลุ่มน้ำโขงครั้งที่ 8 เต็มคณะเช้าวันนี้ นายกฯ แพทองธาร ยืนยันไทยยึดหลัก 3Cs “สร้างความเชื่อมโยง เสริมขีดความสามารถ สร้างประชาคมที่ดีขึ้น”