มติสอบครูผู้ช่วย ไม่จบครูสอบได้ 25 สาขาจาก 61 สาขา

ศธ.28 มี.ค.-ปลัด ศธ.ประชุมร่วมหาข้อยุติกรณีการรับสมัครสอบแข่งขันครูผู้ช่วย ตามที่ รมว.ศึกษาฯมอบหมาย หลังเกิดการล่ารายชื่อปลดรัฐมนตรีออกจากตำเเหน่ง เผยมติผู้ไม่จบครูสามารถสอบได้ 25 สาขา จากทั้งหมด 61 สาขา


นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ถึงกรณีที่มีการปรับหลักเกณฑ์การรับสมัครครู ให้คนที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอนที่คุรุสภาออกให้ สามารถสมัครสอบแข่งขันครูผู้ช่วย จากเดิมที่ต้องมีใบอนุญาต จึงจะสามารถสมัครได้เท่านั้น ซึ่งจะเริ่มประกาศรับสมัครในวันที่ 29 มี.ค.นี้ จนมีกระเเสวิจารณ์อย่างหนัก เเละการร่วมลงชื่อขอให้ปลด รมว.ศึกษาฯออกจากตำเเหน่ง  ว่า เมื่อมาถึงขั้นการล่ารายชื่อเพื่อปลดให้ตนออกจากตำเเหน่งนั้น เเสดงว่านโยบายดังกล่าวอาจมีจุดบกพร่องตรงส่วนใดส่วนหนึ่ง จึงต้องมีการประชุมเพื่อหาข้อยุติ โดยมอบให้นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์  ปลัดกระทรวงศึกษาฯ ประชุมร่วมกับ ก.ค.ศ.ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ที่ประชุมอธิอการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ สภาคณบดีคณะครุศาสตร์และสภาคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ เพื่อทบทวนมติดังกล่าว 


ด้านปลัด ศธ.กล่าวว่า ที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้หารือถึงแนวปฎิบัติเพิ่มเติม โดย ชี้ว่าทุกกระบวนการที่จะได้มาต้องมั่นใจจะได้คนที่มีความรู้ความ สามารถ มีทักษะวิชาชีพครูและวิชาเฉพาะ โดยสพฐ.หน่วยงานหลักที่ต้องการครู ได้เสนอให้การสอบครั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์สพฐ.และคุรุสภา จึงมีมติว่าการสอบครั้งนี้ สพฐ.ประกาศเปิดสอบทั้งหมด 61 สาขา ผู้สมัครสอบต้องมีใบประกอบวิชาชีพครูหรือต้องผ่านหลักสูตรครู 5 ปี 36 สาขา สำหรับผู้ไม่จบหลักสูตรครู 5 ปีหรือผู้จบหลักสูตรครู 5 ปี สามารถลงสมัคร 25 สาขา สำหรับกรณีผู้สมัครสอบที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู สพฐ.จะอำนวยความสะดวกให้ผู้สมัคร แต่ต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่รับสมัคร หากสอบผ่าน สพฐ.จะดำเนินการขอใบอนุญาตจาก คุรุสภาให้ นอกจากนี้ กลุ่มครูที่จะบรรจุรอบนี้จะมีการอบรมให้ก่อน


สำหรับ 25 สาขาที่เปิดให้ทั้งครูที่มีตั๋วเเละไม่มีตั๋ว  จำแนกเป็น กลุ่มสาขา วิชาที่คณะครุศาสตร์  ศึกษาศาสตร์   ซึ่งยังไม่มีผู้สำเร็จการศึกษา ในหลักสูตร 5 ปี จำนวน 17 วิชา คือกายภาพบำบัด  กิจกรรมบำบัด การเงิน  การบัญชี  จิตรกรรม จิตวิทยาคลินิกดนตรีพื้นเมือง  นาฏศิลป์(โขน) ภาษาพม่า  ภาษาเวียดนาม ภาษาสเปน  เศรษฐศาสตร์  โสตทัศนศึกษา

หลักสูตรและการสอนอุตสาหกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมศิลป์ (ช่างก่อสร้าง)อุตสาหกรรมศิลป์ (ช่างยนต์) และภาษามลายู  เเละกลุ่มสาขาวิชาที่ขาดแคลนเรื้อรัง 8 สาขา  ซึ่งเปิดสมัครแล้วไม่มีผู้สมัครหรือสอบผ่านขึ้นบัญชีได้น้อยมาก  ทำให้โรงเรียนขาดครูอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ทั่วไป ฟิสิกส์เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมัน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง