ทำเนียบ 10 ก.ค.-“คารม” ขอสังคมอย่าใช้วิธีคิดด้วยการดูแคลนคนอื่น อย่ากล่าวหาคนอื่นโดยไม่มีหลักฐาน รัฐธรรมนูญทุกฉบับบัญญัติ รับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้มาโดยตลอด การด้อยค่าคนด้วยกัน ไม่มีกฎหมายฉบับไหนอนุญาตให้ทำได้ เพราะทุกคนเท่าเทียมกัน
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่นักศึกษาที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ได้เข้าสอบแข่งขัน เพื่อรับราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วย และมีความสามารถสอบได้ลำดับที่ 1 จำนวนถึง 40 คน มหาวิทยาลัยจึงชื่นชม และแสดงความยินดี ซึ่งเป็นเรื่องที่สถาบันการศึกษาควรทำ กลับมีคนกล่าวหาว่าข้อสอบรั่วหรือไม่ เพราะจังหวัดบุรีรัมย์มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอยู่จังหวัดนี้
แถมยังเลยเถิดไปกล่าวหาถึงว่าเพราะจังหวัดบุรีรัมย์มีสมาชิกวุฒิสภาถึง 14 คน ก็กล่าวหาว่าเขาล็อบบี้ เขาฮั้ว ทั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ กำลังตรวจสอบ ยังไม่มีบทสรุปว่าเป็นจริงตามที่มีคนกล่าวหาไหม วิธีคิดแบบนี้เป็นวิธีคิดที่มองคนอื่นเลวหมด พวกฉัน อาชีพฉัน คนบ้านฉันดีคนเดียว แถมยังดูแคลนไปถึงอาชีพคนที่ลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา ว่ามีอาชีพเป็นดีเจงานศพ มีอาชีพขับรถ มีอาชีพที่ไม่ชื่อเสียง ไม่มีเกียรติ ซึ่งหลายคนลืมไปว่า คนบางคนเขาอาจไม่มีชื่อเสียง ไม่มีอาชีพที่ใหญ่โต ไม่ใช่พ่อค้าร่ำรวย ไม่ใช่อดีตข้าราชการใหญ่ แต่คนเหล่านี้ เขาก็มีเกียรติ มีพวก มีเพื่อน เขาจึงได้รับเลือกเป็น สมาชิกวุฒิสภา และอาชีพของเขา ก็เป็นอาชีพที่ระเบียบของ กกต. กำหนดไว้ทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นคนที่กล่าวหา นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ที่เขาสอบเข้าทำงาน เพื่อจะไปเป็นครู ไปสอนเด็ก กลับมากล่าวหาเขาทุจริต แบบไร้ความรับผิดชอบ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความเมตตาธรรม ซึ่งมนุษย์พึ่งมี หากคิดอีกมุมหนึ่ง ทำไมไม่คิดถึงว่า ครอบครัวเขาอาจทุ่มเท ส่งเสียลูกหลานเขามา เพื่อจบแล้วจะได้มีงานทำ ความจริง เขาอาจเป็นครูที่ดี และมีโอกาสมาสอนลูกหลานท่านก็ได้ และอาจมาสอนลูกหลานท่านให้เป็นคนดีก็ได้ อีกทั้งเด็กเล่านี้ เขาอาจมีครอบครัวที่ยากจน แต่เขาใช้ความพยายามในการเรียน และมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ก็มีหลักสูตรการเรียนการสอนถึง 5 ปี ที่ทำให้เด็กเหล่านี้เก่งได้ เพราะฉะนั้น คนที่วิพากวิจารณ์ด้วยการกล่าวหา แบบไร้หลักฐาน มีแต่จินตนาการ และด้อยค่าคนอื่น จึงควรถูกประนาม
คนเก่งในต่างจังหวัดมีแทบทุกจังหวัดไม่ใช่เฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ เช่นนักเรียนของโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย จังหวัดร้อยเอ็ด สามารถสอบเข้าติดคณะแพทย์ศาสตร์ ได้เกือบทั้งชั้นเรียน แต่จังหวัดร้อยเอ็ดก็ไม่ได้มีคนจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัติกรรรม หรือ อว. แต่อย่างใด แต่อาจเป็นเพราะเด็กเขาเรียนเก่ง และครูสอนดี
“ว่าที่จริง จังหวัดบุรีรัมย์นั้น ก็มีคนมีชื่อเสียง หรือคนเก่งหลายคน เช่น ชัชชุอร นักกีฬาวอลเลย์บอล มีคนที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศแบบคุณลิซ่า และจำได้ว่าในช่วงที่ผมเรียนกฎหมายประธานศาลฎีกา ชื่อนายภิญโญ ธีรนิติ ก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม เพราะฉะนั้นการวิพากวิจารณ์ประชาชนในชาติด้วยกันแบบนี้ จึงไม่มีผลดีอะไร มีแต่สร้างความแตกแยก ถ้ามีตรรกวิบัติแบบนี้ คนในสังคมใช้วิธีคิดแบบนี้ กล่าวหาคนอื่น และด้อยค่าคนอื่น มองคนไม่เท่าเทียมกันแบบนี้ สังคมจะอยู่ได้หรือ” นายคารม กล่าว.-314.-สำนักข่าวไท