สิงคโปร์ 21 มิ.ย.- สิงคโปร์เปิดตัวมาตรการ 1,500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 38,220 ล้านบาท) ช่วยเหลือครอบครัวรายได้น้อยรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเตือนว่าสงครามยูเครนและห่วงโซ่อุปทานสะดุดจะทำให้ค่าครองชีพสูงไปอีกระยะหนึ่ง
รองนายกรัฐมนตรีลอเรนซ์ หว่อง ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังด้วยเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า มาตรการสนับสนุนล่าสุดนี้จะเป็นประโยชน์กับชาวสิงคโปร์ประมาณ 1 ล้าน 5 แสนคน ผู้ใหญ่ที่มีรายได้ต่ำกว่าปีละ 34,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 866,340 บาท) จะได้รับเงินสด 300 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 7,640 บาท) ในเดือนสิงหาคม ชาวสิงคโปร์ทุกครัวเรือนจะได้รับส่วนลดค่าสาธารณูปโภคในบ้านครอบครัวละ 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 2,550 บาท) คนขับแท็กซี่และรถรับจ้างส่วนตัวจะได้รับเงินช่วยค่าน้ำมัน 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 3,830 บาท) ในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ยังจะช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เช่น โรงเชือดไก่ที่เดือดร้อนหลังจากมาเลเซียห้ามส่งออกไก่มีชีวิตจะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการจ้างแรงงานต่างชาติเป็นเวลา 1 เดือน อย่างไรก็ดี รัฐบาลจะเดินหน้าแผนการขึ้นภาษีสินค้าและบริการหรือจีเอสที (GST) จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 9 โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะตามที่กำหนดไว้
นายหว่องระบุว่า สงครามยูเครนและห่วงโซ่อุปทานสะดุดเพราะโควิดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจใหญ่ทั่วโลกมีอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าที่คาดไว้ จึงเป็นไปได้ว่าเงินเฟ้อโลกจะสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง และอาจสูงขึ้นอีกจนกว่าสถานการณ์จะเริ่มมีเสถียรภาพและดีขึ้น ชาวสิงคโปร์จึงต้องเตรียมตัวรับมือกับราคาสินค้าแพง โดยเฉพาะราคาพลังงานที่น่าจะแพงไปตลอดครึ่งหลังของปีนี้ ราคาอาหารในสิงคโปร์เดือนเมษายนปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 ต่อปี และเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ต่อเดือน ธนาคารกลางสิงคโปร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมอาหารสดและพลังงานจะเฉลี่ยที่ร้อยละ 2.5-3.5 ในปีนี้.-สำนักข่าวไทย