“วราวุธ” สั่งฟันนายทุนรุกป่าด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – รมว.วราวุธ สั่งอธิบดีกรมป่าไม้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกำ และป่าเขาห้วยพลู ท้องที่ ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี พร้อมถอดถอนรายชื่อออกจากบัญชีสำรวจการถือครองโครงการ คทช. 


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สั่งการให้อธิบดีกรมป่าไม้ ตรวจสอบกรณีที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า มีนายทุนลักลอบขุดดินจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปถมบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อทำเป็นรีสอร์ต และแหล่งท่องเที่ยวบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน 

ทั้งนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ ให้ทีมพยัคฆ์ไพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. กอ.รมน.สุพรรณบุรี และอำเภอด่านช้าง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ซึ่งได้รับรายงานว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกำ และป่าเขาห้วยพลู ท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี จริง จึงกำชับให้กรมป่าไม้ดำเนินคดีฐานบุกรุก ครอบครองพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด 


นายวราวุธ กล่าวต่อว่า การเข้าตรวจสอบจนนำมาสู่การจับกุม เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนที่แจ้งเบาะแสเข้ามา ที่ผ่านมาสั่งการให้กรมป่าไม้แก้ไขปัญหาการบุกรุกป่า โดยทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเสริมสร้างเครือข่ายในระดับภาคประชาชนให้เป็น “เครือข่ายพิทักษ์ป่า” เพื่อช่วยติดตามตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ และป่าอื่นๆ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแล รักษาอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ จะป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและแก้ไขปัญหารุกป่าอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบการบุกรุกบริเวณแปลงสำรวจโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) แบ่งเป็น 3 จุดดังนี้

– จุดที่ 1 ตรวจพบบริเวณแปลงสำรวจ คทช. ครอบครองโดยนางสาวจันทร์เพ็ญ พงษ์สุพรรณ เนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 79 ตารางวา (ยังไม่ได้รับการอนุญาต) พบว่า มีการถมที่ขยายเข้าไปในเขตที่กรมชลประทานขอใช้ประโยชน์พื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำลำตะเพินประมาณ 3 ไร่ 2 งาน 86 ตารางวา 


– จุดที่ 2 ตรวจพบบริเวณแปลงสำรวจ คทช. ครอบครองโดยนางสาววิจิตรา สำลีลำ เนื้อที่ 4 ไร่ 1 งาน 51 ตารางวา(ยังไม่ได้รับอนุญาต) พบว่า มีการถมดินยื่นเข้าไปในพื้นในเขตกรมชลประทานขอใช้ประโยชน์โครงการอ่างเก็บน้ำลำตะเพินประมาณ 2 ไร่ 1 งาน 84 ตารางวา 

– จุดที่ 3 ตรวจพบบริเวณแปลงสำรวจ คทช. ครอบครองโดยนางสาววิมลรัตน์ ด้วงทอง เนื้อที่ 0 ไร่ 3 งาน 53 ตารางวา (ยังไม่ได้รับอนุญาต) ซึ่งพื้นที่มีลักษณะเป็นเนินเขา ตรวจพบมีการขุดดินลูกรัง

ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นว่า เป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา54 และมาตรา 72 ทวิ ฐานบุกรุกแผ้วถางหรือกระทำด้วยประการใดฯ อันเป็นการทำลายป่า ยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 14 และมาตรา 31 ฐานบุกรุกแผ้วถางยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรือกระทำประการใดฯ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ.ด่านช้างเพื่อดำเนินคดีผู้บุกรุกทั้ง 3 ราย 

อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวต่อว่า ผู้บุกรุกทั้ง 3 รายต่างซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงกันต่อมาจากผู้ครอบครองเดิม โดยพบความเชื่อมโยงกันในลักษณะเป็นขบวนการ อีกทั้งเป็นไปได้ว่า จะมีนายทุนอยู่เบื้องหลังซึ่งตำรวจจะสอบสวนขยายผลนอกจากนี้ที่ดินบริเวณดังกล่าวซึ่งอยู่ในโครงการคทช. ที่จัดสรรให้แก่ผู้ยากไร้และไม่มีที่ทำกิน ไม่อนุญาตให้ซื้อขายเปลี่ยนผู้ครอบครองหรือใช้ผิดวัตถุประสงค์ ดังนั้นกรมป่าไม้จะถอดถอนรายชื่อทั้ง 3 ราย ออกจากบัญชีสำรวจการถือครองโครงการ คทช. อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย

น้ำค้างแข็ง

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า ขณะที่พื้นราบหนาวไม่แพ้กัน อุณหภูมิลดเหลือ 6-7 องศาฯ ส่วนที่พิษณุโลก บ้านร่องกล้า อุณหภูมิยอดหญ้าลบ 2 องศาฯ และที่บึงกาฬ ความหนาวกระทบวิถีชาวบ้าน ลมแรงทำไฟไหม้บ้าน

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ครม.​อนุมัติหลักการ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายกฯ​ เผย​ ครม.​อนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กฤษฎีกายันไม่ขวาง​ ไม่ต้องยกร่างใหม่ แต่จะไปปรับคำให้คล้องกับที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ชี้เกิดเร็วดีเพื่อประโยชน์ประเทศ