สทร.ประกาศผลตัดสิน “รถไฟในฝัน” เยาวชนไทยโชว์ไอเดียล้ำ

กรุงเทพฯ 13 ม.ค. – สทร.ประกาศผลตัดสิน “รถไฟในฝัน” เยาวชนไทยโชว์ไอเดียล้ำ! ปูทางสร้างบุคลากรคุณภาพสู่อุตสาหกรรมรางไทย


สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) หรือ สทร. จัดงานประกาศผลการประกวดความคิดสร้างสรรค์ระดับเยาวชน หัวข้อ “รถไฟในฝัน” พร้อมมอบรางวัลทุนการศึกษา มูลค่ารวม 420,000 บาท ดันศักยภาพเด็กไทยร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมรางของประเทศ

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2567 ที่โรงแรมเอส รัชดา ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) หรือ สทร. เปิดเผยว่า การจัดประกวดความคิดสร้างสรรค์ระดับเยาวชน หัวข้อ “รถไฟในฝัน” ครั้งนี้ เป็นกิจกรรมนำร่องในโครงการ “คิดใหญ่ไปให้สุดราง” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบราง และเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบรางของประเทศ ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของ สทร.


ดร.จุลเทพ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเกินความคาดหมาย เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวโครงการเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้มีนักเรียนนักศึกษาส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจากทั่วประเทศเป็นจำนวนมากถึง 433 ทีม แบ่งเป็นรุ่นอายุ 16-18 ปี 270 ทีม และรุ่น 18-22 ปี จำนวน 163 ทีม โดยคณะกรรมการได้ประกาศรายชื่อ 10 ทีมที่ผ่านรอบแรก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ซึ่งคัดเลือกจากทีมที่ได้คะแนนสูงสุดตามกรอบของเกณฑ์การตัดสิน ประกอบด้วย ความคิดสร้างสรรค์ การนำไปใช้ได้จริง และการสื่อสารแนวคิด อีกทั้งยังได้จัดกิจกรรม “ส่องราง” สำหรับสมาชิกทีมที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการนำเสนอผลงานรอบตัดสิน ในวันที่ 13 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันประกาศผลและมอบรางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศ และรางวัลพิเศษ เป็นทุนการศึกษารวมทั้งสิ้น 420,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตร

“การจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยแต่ละผลงานของน้อง ๆ ที่ส่งเข้าประกวด ล้วนมีความคิดสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ มีความหลากหลาย และสะท้อนถึงศักยภาพของเยาวชนไทยที่ให้ความสนใจในระบบราง ผมในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน ขอแสดงความชื่นชมและขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วย” ผู้อำนวยการ สทร. กล่าว

ดร.จุลเทพ กล่าวอีกว่า การที่มีนักเรียนนักศึกษาสนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจและความกระตือรือร้นของเยาวชนไทยที่อยากเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบรางของประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพเพื่อรองรับอุตสาหกรรมรางในอนาคตอันใกล้ โดยหนึ่งในภารกิจสำคัญของ สทร. คือ การผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศผู้ผลิตแทนการนำเข้าขบวนรถไฟ ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินงบประมาณแผ่นดินในการสั่งซื้อจากต่างประเทศลงได้ 20% จากราคาปัจจุบันขบวนรถไฟต่อคันอยู่ที่ 100-150 ล้านบาท


“ในนามของ สทร. ผมขอขอบคุณน้อง ๆ ทุกคนที่ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด และขอแสดงความยินดีกับทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าไอเดียของน้อง ๆ ของทุกๆ ทีมที่ร่วมส่งประกวดจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝัน และหลายไอเดียอาจถูกนำไปพัฒนาต่อยอดให้ปรากฏเป็นรูปธรรมได้ในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะสนับสนุนและส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้มีส่วนร่วมกับการพัฒนาระบบรางอย่างต่อเนื่อง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมครั้งนี้จะเป็นจุดริเริ่มในการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบรางของไทย และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรางของประเทศต่อไป” ผู้อำนวยการ สทร. กล่าว

ทั้งนี้ ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รุ่นอายุ 16-18 ปี ได้แก่ ทีม Ben2 จากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 ส่งผลงาน IN-TRAIN ROBOT เทคโนโลยีหุ่นยนต์ดูแลรถไฟ สร้างความปลอดภัยให้ระบบรางอย่างยั่งยืน และรางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Ruby on Rails จากโรงเรียนหอวัง ส่งผลงาน ROOTS ON RAILS ระบบขนส่งทางรางสำหรับสินค้าทางการเกษตร

ส่วนทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รุ่นอายุ 18-22 ปี ได้แก่ ทีมตกหลุมราง จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ส่งผลงาน Food Truck Food Train ตลาดนัดเคลื่อนที่ โบกี้เพื่อชุมชน และรางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ ทีม p:Hep จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ส่งผลงาน PHEP PROTOTYPE1 รถไฟอากาศสะอาด เป็นรถไฟฟ้าสำหรับวิ่งทางไกล โดยที่ไม่ต้องลงทุนพัฒนาระบบราง ขับเคลื่อนโดยใช้ระบบ Plug-in Hybrid Hydrogen Electric Power.-111-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนยังเผชิญพายุฤดูร้อน ฝนตก-ลมแรง

กทม. 12 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหลายพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย

เร่งคุมเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มควันพวยพุ่ง

ลาดกระบัง 12 พ.ค.- ระดมกำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ล่าสุดยังมีกลุ่มควันจำนวนมาก คาดความเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อเวลา 16.24 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนฉลองกรุง ขนานข้างเป็นแนวยาวติดกับแนวซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นโรงงาน 2 ชั้น แนวราบยาวจากพื้นดิน ยกพื้นสูงเป็นชั้นลอย โดยทำห้องใต้ดินไว้เก็บของและวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงตัวสินค้า หากเข้ามาในซอยฉลองกรุง 55 จะเป็นพื้นกำแพงของตัวโรงงานอยู่ด้านขวามือ จุดต้นเพลิง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปผจญเหตุ เล่าว่า อยู่บริเวณชั้นใต้ดิน หลังจากเกิดเหตุไม่สามารถที่จะลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูงต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษรวมถึงหน้ากากออกซิเจน ในการเข้าไป โดยจะเห็นได้ว่าตามช่องต่างๆ (ช่องกำแพง ช่องท่อ ช่องประตู) ก็จะมีกลุ่มควันนั้นลอยขึ้น และออกมาด้านนอก มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้น ยังไม่สามารถประเมินค่าได้ ต้องรอให้เหตุการณ์สงบลง ทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เขตลาดกระบัง ร่วมกับ สน.ฉลองกรุง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตความรับผิดชอบ ก็จะมีการเรียกพูดคุย และสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้ รวมถึงการประเมินมูลค่าทรัพย์สินความเสียหาย โดยตอนนี้ทางเจ้าของโรงงานได้ทราบเรื่องแล้ว ทางด้าน กรุงเทพมหานคร […]

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย