ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

12 ม.ค. – ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท


ครูสาว เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา มีเบอร์โทรจาก อบต.ท้องถิ่น ที่ตนเองได้ไปซื้อที่ดินไว้ โทรมาแจ้งว่าที่ดินดังกล่าวมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับที่ดินข้างเคียง ให้ไปขอเอกสารที่สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี และนำไปยื่นที่ อบต. เพื่อจะเจรจากับเจ้าของที่ดินข้างเคียง จัดการรังวัดที่ดินใหม่ ซึ่งอีกฝ่ายรู้ข้อมูลที่ดินของตนเองหมด ว่าเป็นที่ดินในป่า มีการจดทะเบียน มีบ้านเลขที่ ทำให้ตนเองหลงเชื่อว่าที่ดินมีปัญหาจริง จากนั้นอีกฝ่ายจึงให้เบอร์สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานีมา แต่เมื่อตนเองโทรไป ได้รับคำแนะนำว่าให้ไปกรอกข้อมูลยื่นออนไลน์ และเริ่มมีพิรุธ ตนเองคิดว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ จึงตัดสินใจวางสายไป

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีอีกเบอร์โทรเข้ามา ตอนแรกตนเองไม่รับ แต่อีกฝ่ายโทรมาไม่หยุด เริ่มเห็นว่าเบอร์ดังกล่าวคุ้นตา เมื่อนำไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต ก็พบว่าเป็นตรงกับเบอร์ธนาคารชื่อดัง ตนเองจึงตัดสินใจรับสาย ซึ่งคราวนี้อีกฝ่ายพูดคล่องแคล่ว ไม่เหมือนมิจฉาชีพที่เคยโทรมา และบอกว่าโทรศัพท์มือถือตนเองโดนแฮ็ก ต้องรีบแก้ไข ประกอบกับจังหวะเดียวกันโทรศัพท์มือถือของตนเองก็เริ่มมีอาการค้าง และช้าจริงๆ จึงเชื่อและทำตามที่อีกฝ่ายแนะนำ


ขั้นตอนแรก ให้เข้าแอปธนาคาร เข้าไปตั้งค่ารักษาความปลอดภัยต่างๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวงเงิน หรือการโอนเงิน และยังให้ตนเองเข้าไปเช็กแอปแปลกปลอมในโทรศัพท์ด้วย ตนเองจึงเชื่อโดยสนิทใจว่าเป็นการรักษาเงินในบัญชี แต่จู่ๆ โทรศัพท์ช้าลง จนพิมพ์อะไรไม่ได้ อีกฝ่ายจึงบอกว่ามิจฉาชีพเริ่มทำงานแล้ว ต้องรีบเอาเงินออกจากบัญชีธนาคารโดยเร็วที่สุด ด้วยการโอนไปที่บัญชีของบุคคลหนึ่ง ซึ่งธนาคารเตรียมไว้สำหรับการป้องกันมิจฉาชีพ จากนั้นให้ไปแจ้งความ และนำสลิปการโอนเงินไปรับเงินคืนที่ธนาคารสาขาได้ ตนเองหลงเชื่อ ยอมโอนเงินไป 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.2 ล้านบาท

หลังตั้งสติได้ ตนเองโทรไปที่ธนาคาร เพื่อขออายัดบัญชีมิจฉาชีพ แต่ไม่ทันได้ถามว่าเหตุใดเบอร์ที่โทรเข้ามา จึงเหมือนเบอร์คอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร จากนั้นไปแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี แม้ตำรวจจะรับแจ้งความ แต่บอกว่าไม่น่าจะได้เงินคืน และเมื่อกลับมาตรวจดูแอปแปลกปลอมอีกครั้ง ตนเองก็พบแอปแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงถอนติดตั้งแอปนั้นไป ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าแอปนั้นติดตั้งไว้ตั้งแต่ตอนไหน เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวมักจะยืมโทรศัพท์มือถือของตนเองไปเล่นเป็นประจำ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

อากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่ ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อนโดยทั่วไป และร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก