ทส.- กษ. ร่วมตรวจแนวเขตทั่วประเทศ พื้นที่ทับซ้อนส่ง One Map ชี้ขาด 

ทำเนียบฯ 4 มี.ค.- กระทรวงทส. หย่าศึกกระทรวงเกษตรฯ ปลัดทั้งสองกระทรวงหารือร่วม พร้อมด้วยอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ และเลขาส.ป.ก. ตกลงที่จะนำแผนที่ตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงานมาเปรียบเทียบ หาข้อยุติเส้นแนวเขตใน 1 เดือน หากพบการทับซ้อน จะเสนอคณะอนุกรรมการ One Map ชี้ขาด


นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หารือร่วมกันเพื่อยุติข้อขัดแย้งระหว่างหน่วยงานเกี่ยวกับแนวเขตที่ดินของรัฐที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยมีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ผู้แทนกรมป่าไม้ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) รวมถึงนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติเข้าร่วมประชุมด้วย

ปลัดกระทรวงทส. กล่าวว่า กระทรวงทส. ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ป่าและทะเล รวมถึงสัตว์ป่า ขณะที่กระทรวงเกษตรฯ ดูแลพื้นที่ทำกินของประชาชนจึงต้องหารือให้การทำงานร่วมกันในอนาคตมีประสิทธิภาพสูงสุดแก่ทุกภาคส่วน ทั้งสองหน่วยงานเห็นร่วมกันว่า จะต้องเพิ่มพื้นที่ป่าหรือพื้นที่สีเขียวตามนโยบายของรัฐบาล โดยในส่วนพื้นที่เชื่อมต่อของแนวเขตหรือ corridor ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติฯ ต้องการสงวนรักษาพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติไว้เพื่อดูแลสัตว์ป่า ได้ขอความร่วมมือส.ป.ก. ไม่อนุญาตการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดิน


ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า จะต้องเร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับแนวเขตปฏิรูปที่ดินกับป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ โดยเสนอให้สคทช. เร่งรัดการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ในพื้นที่ที่มีปัญหาก่อนเช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและปราจีนบุรี อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง สคทช. รับที่จะดำเนินการให้ได้ข้อยุติใน 2 เดือน เมื่อคณะอนุกรรมการ One Map ได้ข้อยุติ แล้วเสนอให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) มีมติเห็นชอบ ทั้งสองกระทรวงจะดำเนินการตาม One Map ที่คทช. ชี้ขาด

นอกจากนี้ยังมอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ให้ตรวจสอบการออกส.ป.ก. 4-01 ทั่วประเทศว่า มีการดำเนินการผิดระเบียบหรือมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากพบจะลงโทษ

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ และส.ป.ก. จะนำแผนที่ตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงานมาเปรียบเทียบแนวเขตพื้นที่รอยต่อของป่าอนุรักษ์และเขตปฏิรูปที่ดิน โดยกำหนดเวลา 1 เดือนจากนี้ จะต้องชี้ชัดได้ว่า แนวเขตที่ถูกต้องอยู่ตรงไหน บริเวณที่เส้นแนวเขตไม่ตรงกัน จะหารือกันเพื่อหาข้อยุติ หากเป็นพื้นที่ทับซ้อน จะต้องส่งให้คณะอนุกรรมการ One Map ตรวจสอบเพื่อชี้ขาดในกรอบเวลา 2 เดือน


เลขาธิการส.ป.ก. กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะประธารคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) เพื่อให้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวเขตการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรกรณีเป็นที่ดินที่ไม่เคยจัดให้แก่บุคคลใดตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมีหน่วยงานของรัฐ 9 หน่วยงานได้แก่ ผู้แทนของกรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นต้น เพื่อร่วมกันพิจารณาตรวจสอบแนวเขตพื้นที่ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดจะออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือออกส.ป.ก. 4-01 ว่า ทับซ้อนหรือรุกล้ำแนวเขตที่ดินซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานหรือไม่ จากนี้การออกส.ป.ก. 4-01 ในแปลงใหม่ๆ จะต้องพิจารณาภาพถ่ายทางอากาศประกอบด้วยเสมอว่า ไม่เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่า ตามนโยบายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะคงสภาพป่าบริเวณรอยต่อของเขตปฏิรูปที่ดินกับป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ โดยจัดทำเป็นป่าชุมชน ส่วนส.ป.ก. 4-01 ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดออกไปแล้ว ส.ป.ก. ส่วนกลางติดตามตรวจสอบเสมอ หากพบว่า ไม่เป็นไปตามระเบียบ จะต้องลงโทษทางวินัยแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 

ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติระบุถึงการที่ก่อนหน้านี้ ไม่ยอมรับการชี้แนวเขตของกรมแผนที่ทหารซึ่งระบุว่า พื้นที่พิพาทไม่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่เป็นเขตปฏิรูปที่ดินนั้น เนื่องจากเห็นว่า ยังไม่ได้ผ่านการเห็นชอบของคณะอนุกรรมการ One Map และจะต้องผ่านการเห็นชอบของคทช. ตามขั้นตอนด้วย แต่วันนี้ทั้งสองหน่วยงานได้หารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความถูกต้องในการจัดการที่ดินของรัฐและประโยชน์ของประเทศชาติ ก็พึงพอใจ โดยเฉพาะประเด็นรอยต่อของแนวเขตที่จะทำเป็น corridor สำหรับการดูแลสัตว์ป่าที่ปลัดกระทรวงทส. เสนอซึ่งหากทุกหน่วยงานเห็นด้วยและดำเนินการตามนี้ จะเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศไปด้วย.- 512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ