“ร.ต.ท.” เครียด ยิงภรรยา-ลูก เสียชีวิตในบ้านพัก

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – ตำรวจ สน.ทุ่งครุ เข้าตรวจสอบเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต 3 ศพ ในบ้านพัก พบร่างนายตำรวจยศ “ร.ต.ท.” และภรรยา เสียชีวิตบนเตียงนอน ส่วนอีกห้องพบร่างลูกสาวของผู้ตายอายุ 14 ปี นอนเสียชีวิตอยู่อีกคน


เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจ สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต 3 ศพในบ้านเดี่ยวสองชั้น ภายในซอยประชาอุทิศ 54 แยก 6 เขตทุ่งครุ จึงนำกำลังพร้อมแพทย์นิติเวชและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ไปตรวจสอบภายในบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตคือ ร.ต.ท.พงศกร ทวีแก้ว รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 8 และนางเบจวรรณ วุฒิสาร 40 ปี ภรรยา นอนเสียชีวิตคู่กันอยู่บนเตียงในห้องชั้นล่าง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะทั้งคู่ ขณะที่อีกห้องหนึ่งพบร่างลูกสาวของผู้ตายวัย 14 ปี นอนเสียชีวิตอยู่อีกคน

โดยที่เกิดเหตุพบว่าอาวุธปืนออโตเมติกขนาด 9 มม. ตกอยู่ใกล้กับศพของนายตำรวจ ขณะที่หน้าบ้านพบรถเบนซ์ E220 สีดำทะเบียน ฌณ 8639 จอดอยู่ ใต้รถฝั่งซ้ายพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ ส่วนภายในรถฝั่งด้านข้างคนขับ พบรอยเลือดกระจายติดเบาะเป็นวงกว้าง


นายสมเดช โพนรัมย์ เล่าว่า เพื่อนที่ขับวินจักรยานยนต์ เห็น ร.ต.ท.พงศกร ขับรถมาจอดหน้าบ้านแล้วก็เดินเข้าไปภายในบ้าน ช่วงเวลา 09.00 น.วันนี้ ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จากนั้นไม่นานพบ ร.ต.ท.พงศกร เดินออกมาจากบ้าน สไลด์ลำกล้องปืนหนึ่งครั้ง และเดินเปิดประตูด้านข้างคนขับอุ้มร่างภรรยาที่โชกเลือดออกมาจากรถพาเข้าไปในบ้านก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าภรรยา ร.ต.ท.พงศกร น่าจะถูกยิงตั้งแต่อยู่ภายในรถ

สำหรับสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสอบสวนรายละเอียดเบื้องต้นด้วยตนเอง เนื่องจากกังวลว่าจะมีความซับซ้อนทางคดี แต่จากการสอบสวนพบว่าสาเหตุมาจากปัญหาภายในครอบครัวเท่านั้น จึงไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพราะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้เสียชีวิต

สำหรับ ร.ต.ท.พงศกร เป็นตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 8 มานาน และเป็นลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจ (สบ.8) มาตั้งแต่ พล.ต.ต.อิทธิพล เป็นผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 8 ซึ่งในวันนี้ก็ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ ก่อนเผยว่าช่วงหลังลูกน้องมีความเครียดเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับภรรยา


ด้านนายฤทธิไกร เวชสุธารมณ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สังกัดศูนย์บริการสาธารณสุข 59 ทุ่งครุ ผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้เสียชีวิตเป็นคนแรก บอกว่า ขณะที่ตนเองกำลังรับคนไข้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขฝั่งตรงข้ามบ้านเกิดเหตุ เห็นรถของผู้เสียชีวิตขับมาจอดหน้าบ้าน เห็น ร.ต.ท.พงศกร อุ้มร่างภรรยาเข้าไปในบ้าน จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จากนั้นประมาณ 10 นาที ลูกชายผู้ตายได้วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือตนเอง เมื่อเข้าไปถึงภายในบ้านได้เห็น ร่าง ร.ต.ท.พงศกร และภรรยานอนอยู่บนเตียงคู่กัน ส่วนลูกสาวอยู่อีกห้องหนึ่ง ตนเองได้ให้ความช่วยเหลือพบว่าชีพจรของภรรยาเต้นต่ำมาก ส่วนลูกสาวยังพอมีสัญญาณชีพจรอยู่บ้าง จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ สำหรับที่ผ่านมาตนเองเคยได้ยินเสียง ร.ต.ท.พงศกร กับภรรยาทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งชาวบ้านก็ได้ยินเป็นประจำเช่นกัน แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าทะเลาะกันจากสาเหตุอะไร

ขณะที่พี่สาว ร.ต.ท.พงศกร กล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า ตอนเกิดเหตุกำลังเลี้ยงเป็ดอยู่หลังบ้าน ได้ยินเสียงดังขึ้นตอนแรกนึกว่ายางรถยนต์ระเบิด พอเข้ามาในบ้านก็พบศพทั้ง 3 คน นอกอยู่ในบ้านแล้ว สำหรับที่ผ่านมาช่วงหลังน้องชายกับน้องสะใภ้มีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง จากความหึงหวงถึงขนาดน้องชายเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง แต่ก็ไม่ได้มีการลงไม่ลงมืออะไร ซึ่งตนเองก็แปลกใจเพราะเห็นน้องสะใภ้อยู่บ้านทุกวัน

ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ และแพทย์ชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลศิริราชได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บพยานหลักฐานภายในบ้าน เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีส่วนร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสามศพเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำไปชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลศิริราช.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน