กทม. 14 พ.ย.- กกต. ประชุมเตรียมความพร้อมจัดเลือกตั้งนายก-สภา อบจ. 76 จังหวัด หวัง จนท.นำประสบการณ์เลือกตั้งก่อนหน้ามาปรับใช้ แนะ ผอ.ประจำจังหวัด ตรวจสอบสิทธิผู้สมัครให้รอบคอบ “สันทัด” แจงเลือกตั้ง 1 ก.พ.68 เพราะข้อจำกัดเวลา-กฎหมาย
นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมชี้แจงเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยนายสันทัด กล่าวเปิดการประชุมว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติเห็นชอบแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดไปแล้วโดยกำหนดให้วันเลือกตั้งเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 วันนี้จึงเป็นการประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่มีความรับผิดชอบ การจัดการเลือกตั้งทั้ง 76 จังหวัด การจัดการเลือกตั้งแต่ละครั้งนั้นมีองคาพยพค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นกฎหมายได้มอบหมายให้ท้องถิ่นนั้นเป็นผู้จัดการเลือกตั้งโดยมีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งให้การสนับสนุน ประกอบไปด้วยปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ,หัวหน้ากลุ่มงานจัดการเลือกตั้งและการมีส่วนร่วมผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 280 คน ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งกว่า 90,000 หน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นั้นเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย ตนเข้าใจว่าทุกคนในที่นี้ผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้งแล้ว แล้วหวังว่าจะได้เอาประสบการณ์และข้อสังเกตที่ผ่านมา เพื่อให้การเลือกตั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นั้นสมบูรณ์แบบ
นายสันทัด ยังฝากข้อแนะนำไปยังเจ้าหน้าที่ที่เข้าประชุมวันนี้ ว่า การเลือกตั้งทุกครั้งนั้นมีความสำคัญไม่ว่าจะเป็นระดับชาติ ระดับประเทศ ระดับท้องถิ่นก็ตาม สิ่งที่มักจะเกิดขึ้น และทำให้พวกเราต้องปวดหัว คือในช่วงของการรับสมัคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวินิจฉัยสิทธิของผู้สมัคร ที่เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดคือ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ต้องประกาศสิทธิรับสมัครว่าใครผ่าน หรือไม่ผ่าน การลงสมัครเลือกตั้ง ซึ่งภารกิจนี้ค่อนข้างหนักและหวังว่าทุกจังหวัดเองจะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการวินิจฉัยสิทธิกว่า 20 หน่วยงาน
ขณะที่หลังจากที่ลงคะแนนเลือกตั้งเสร็จแล้ว ปัญหาที่จะเกิดขึ้นมักจะเกิดขึ้นขณะนับคะแนนลงคะแนน จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ให้มีการจดบันทึกเหตุการณ์ในสมุดจดบันทึกเหตุการณ์ แม้หน่วยเลือกตั้งของตัวเองไม่มีเหตุการณ์อะไรก็ตามแต่ก็ขอให้จดบันทึก เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นพยานหลักฐานอย่างดีว่า ช่วงเวลาขณะนั้นเลือกตั้งเกิดอะไรขึ้น
นายสันทัด ยังชี้แจงถึงการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นวันเสาร์ ซึ่งปกติการเลือกตั้งมักจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ ว่า การที่ กกต.เลือกวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก็ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายที่เขียนไว้ว่า ถ้าอายุสภาหมด หรืออายุของนายก อบจ.หมด เราต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่งการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งล่าสุดคือ วันที่ 20 ธันวาคม 2563 เพราะฉะนั้นจะสิ้นสุดวาระในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ดังนั้นจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน
วันสุดท้ายคือวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 และถ้า กกต.เลือกเป็นวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือ ต้องทำกระบวนการทุกอย่างในการเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสุ่มเสี่ยง ในแง่ของข้อกฎหมาย จึงจำเป็นจะต้องขยับเข้ามา
ส่วนที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมไม่เลือกในวันที่ 26 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยแน่นอน แต่จะมีเวลาในการจัดการเลือกตั้งแค่ 38 วัน จึงคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ของผู้สมัครที่จะได้มีเวลาหาเสียงอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงกรอบระยะเวลาและข้อกำหนดต่างๆ ตั้งแต่การเปิดรับสมัครวินิจฉัยสิทธิ รวมไปถึงการลงคะแนน นับคะแนน ซึ่งในระหว่างทางคาดว่าน่าจะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาอยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ต้องมีเวลากฎหมายกำหนดไว้ว่าเราต้องรีบดำเนินการ นี่จึงเป็นข้อกำหนด ให้เลือกวันเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568.-315.-สำนักข่าวไทย