สาวกาฬสินธุ์เที่ยวเกาหลีวูบไม่ทราบเหตุนอนนิ่งอยู่ รพ.

กาฬสินธุ์ 26 มี.ค.- ญาติร้องศูนย์ดำรงธรรมขอความช่วยเหลือบัณฑิตสาว ม.เอกชนดัง หมดสติเฉียบพลันไม่ทราบสาเหตุขณะเที่ยวเกาหลี กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรานอนอยู่ใน รพ. ด้านผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์รุดช่วยประสานกรมการกงสุล


กรณีนายทองอ่อน หนองโสดา อดีตกำนันตำบลหนองแวง อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ เรียกร้องผ่านสื่อมวลชนในพื้นที่เพื่อขอความช่วยเหลือหลานสาว คือ  น.ส.ระภีภรณ์ นาสะอ้าน หรือ น้องมิน อายุ 25 ปี บัณฑิตมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง เกิดหมดสติไม่ทราบสาเหตุกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ขณะเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลีพร้อมเพื่อนอีก 3 คน เมื่อวันที่ 20-24 มีนาคมที่ผ่านมา และยังอยู่โรงพยาบาลในเกาหลี ทางญาติจึงโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1567 ศูนย์ดำรงธรรมประเทศไทย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือนั้น  

ล่าสุด พ.จ.ต.เดชากร จิตจักร ปลัดอำเภอสมเด็จ และนายนิยม โยหาสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองแวง ได้ลงพื้นที่บ้านโนนชาด ต.หนองแวง เพื่อสอบถามข้อมูลกับญาติของ น.ส.ระภีภรณ์ ในการทางช่วยเหลือและประสานงาน พร้อมกันนี้นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สมทบเงินช่วยค่าเดินทาง 5,000 บาท  


นางสมพร เกื้อสุวรรณ อายุ 48 ปี ป้าของ น.ส.ระภีภรณ์ เล่าว่า  ครอบครัวของหลานทำงานอยู่ใน กทม.หลายสิบปีแล้ว โดยจะกลับมาเยี่ยมเยียนภูมิลำเนาช่วงเทศกาล และน้องสาว อายุ 45 ปี คือ นางบังอร นาสะอ้าน ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.ระภีภรณ์ เล่าให้ฟังว่าหลานเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลีและเพื่อนที่ไปด้วยกันส่งข่าวมาบอกเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ว่า น.ส.ระภีภรณ์ เกิดช็อคหมดสติได้พาส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่ยังไม่ฟื้น ขณะที่เพื่อนอีก 3 คน ต้องเดินทางกลับ ทางโรงพยาบาลจึงต้องให้ญาติมาด่วนพร้อมค่าใช้จ่าย 200,000 บาท ญาติ ๆ จึงช่วยกันโทรขอความช่วยเหลือไปที่ 1567 เพราะต้องการให้รักษาอาการของ น.ส.ระภีภรณ์ ก่อนส่วนเงินกำลังรวบรวม 

ขณะที่นางบังอร ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า  ครอบครัวกำลังหาเงินเพื่อเดินทางไปพบลูก คาดว่าจะเดินทางได้ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ ซึ่งอยากให้นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะการนำตัวกลับมารักษาในประเทศไทย เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่า เพราะเพียงแค่คืนเดียวสูงถึง 200,000 บาท  

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วจาก น.ส.ชุลีพร ภูสมศรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งได้ประสานไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมจัดส่งเอกสารแสดงตัวตนของ น.ส.ระภีภรณ์ ขณะนี้ทราบว่าสถานทูตที่ประเทศเกาหลีรับทราบแล้ว ทางจังหวัดก็พร้อมจะอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง