เพชรบุรี 26 พ.ค – ที่ปรึกษารมว. ทส. นำทีมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ แก้ปัญหาลิงแสมเข้ามารบกวนที่โรงเรียนพรหมานุสรณ์ อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยนำลิงกังมา 2 ตัวเพื่อมาจำกัดพื้นที่ลิงแสมเนื่องจากลิงแสมกลัวลิงกัง หมอล็อตและเจ้าหน้าที่ให้ความรู้และคำแนะนำแก่เด็กนักเรียนเมื่อเผชิญหน้ากับลิง พร้อมเสริมความรู้เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง
ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรีนำเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยสัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมลงพื้นที่แก้ไขปัญหากรณีลิงแสมบุกทำร้ายนักเรียน ม.3 โรงเรียนพรหมานุสรณ์ โดยนำลิงกังมา 2 ตัวเพื่อใช้ในการจำกัดและควบคุมพื้นที่ของลิงแสมให้อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมเนื่องจากลิงแสมกลัวลิงกัง วิธีการดังกล่าวเป็นภูมิปัญญาของชาวเพชรบุรี ซึ่งภายหลังจากที่ได้ทดลองใช้ลิงกังมาควบคุมและจำกัดพื้นที่ของลิงแสมในช่วงเช้าแล้วนั้น พบว่า ลิงแสมเกิดความเกรงกลัวลิงกังที่ทางเจ้าหน้าที่นำมา และได้หลบกลับขึ้นไปในพื้นที่ควบคุมเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็นับว่าเป็นการปฏิบัติงานในระยะสั้นที่ได้ผล ส่วนในระยะต่อไปก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้อย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อสร้างความสบายใจให้ครู อาจารย์ นักเรียน และผู้ปกครองในการนำบุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียน
ดร.ยุทธพลกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาลิงรบกวนในพื้นที่ ต้องมีการแก้ไขปัญหาในทุกประเด็น เช่นในบางจุดที่มีลิงเยอะอาศัยรวมฝูงในจุดต่างๆ เพราะมีคนคอยให้อาหารอยู่เป็นประจำ สิ่งที่ต้องทำคือการปรับพฤติกรรมของคนไม่ให้กระทำในสิ่งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลิงแสม เช่น การให้อาหาร เป็นต้น
นอกจากนี้ทางสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทรายนำเจ้าหน้าที่ผู้มีความชำนาญงานด้านสัตว์ป่ามาแนะนำให้ความรู้ในการดูแลและการปฏิบัติตน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าโดยเฉพาะสิงแสมที่มีชุกชุมในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี
นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือหมอล็อต นายสัตว์แพทย์หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องของปัญหาสัตว์ป่ารบกวนชาวบ้าน การมาครั้งนี้ ได้นำเอาผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการสัตว์ป่า จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ มาให้คำแนะนำนักเรียนและครูอาจารย์ ในการป้องกันตัวจากการถูกสัตว์ป่ารบกวน พร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่มาทำการสำรวจและเก็บข้อมูลของพฤติกรรมสัตว์ป่า เพื่อนำไปทำการวิเคราะห์และหาทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของสัตว์ป่า เพื่อให้คนและสัตว์ป่า สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ทั้งนี้ โรคฝีดาษลิง ขณะนี้กำลังเป็นโรคที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก กรมอุทยานแห่งชาติฯ ในฐานะหน่วยงานที่ควบคุมและตรวจสอบการส่งออก นำเข้า หรือนำส่งต่อเพื่อการค้าซึ่งชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าที่ระบุไว้ในบัญชี หมายเลข 1 หมายเลข 2 และหมายเลข 3 ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้ สูญพันธุ์ (CITES) ได้ดำเนินการควบคุมตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด ซึ่งในขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง แต่อย่างไรก็ตามกรมอุทยานฯ ได้มีแผนดำเนินการสำรวจและเฝ้าระวังเชิงรุกและย้อนกลับไป ซึ่งที่ผ่านมามีการสำรวจและเฝ้าระวังลิงในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเกิดกรณีดังกล่าว กรมจะเพิ่มโรคนี้ในชื่อของโรคที่เฝ้าระวังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้หากมีการสัมผัสสัตว์ให้รีบล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดให้สังเกตอาการ หากพบมีความผิดปกติ เช่น มีไข้ มีตุ่มผื่นที่ใบหน้า แขน และขาให้รีบพบแพทย์ทันที.-สำนักข่าวไทย