โซล 21 พ.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐและประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ตกลงร่วมกันในวันนี้ที่จะจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่กว่าเดิมและจะนำอาวุธของสหรัฐมาประจำการในเกาหลีใต้เพิ่มเติมหากจำเป็นเพื่อใช้ในการต่อต้านเกาหลีเหนือ ขณะที่จะขยายความเป็นพันธมิตรในการรับมือกับความท้าทายใหม่ ในระดับภูมิภาคและระดับโลก
นายไบเดนและนายยุน กล่าวว่า ความเป็นพันธมิตรระหว่างสองประเทศที่ดำเนินมาเป็นระยะเวลาหลายทศวรรณ จำเป็นต้องมีการพัฒนา ไม่เพียงเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและยังมีเป้าหมายในการทำให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก “มีเสรีภาพและเปิดกว้าง” และปกป้องห่วงโซ่อุปทาน ผู้นำทั้งสองพบหารือกันที่กรุงโซล ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการพบเจรจาทางการทูตเป็นครั้งแรกหลังจากนายยุน เข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของเกาหลีใต้เมื่อ 11 วันก่อน ในแถลงการณ์ร่วมหลังการเจรจา นายไบเดน ให้คำรับประกันอีกครั้งถึงพันธกรณีของสหรัฐในการปกป้องเกาหลีใต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์หากว่าจำเป็น ทั้งสองประเทศตกลงที่จะพิจารณาขยายการซ้อมรบให้ใหญ่ขึ้น หลังจากลดขนาดลงไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อพยายามลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ สหรัฐยังให้สัญญาจะส่งสิ่งที่สหรัฐเรียกว่า “ทรัพย์สินทางยุทธศาตร์” ซึ่งโดยทั่วไปจะหมายรวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล เรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธ หรือเรือบรรทุกเครื่องบิน หากว่ามีความจำเป็นในการสกัดกั้นภัยจากเกาหลีเหนือ
นายไบเดน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุมด้วยว่า เขามีความตั้งใจที่จขะพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ หากว่าเขาสนใจที่จะมาร่วมเจรจาอย่างจริงจัง นายไบเดนกล่าวด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐเสนอให้วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ให้แก่เกาหลีเหนือและจีน ส่วนนายยุนก็เสนอให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจากเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย