“พล.อ.ประวิตร” ดันระบบราง-ดิจิทัล ลดภาระสร้างรายได้

กทม. 14 พ.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ผลักดันระบบราง-ดิจิทัลสร้างประโยชน์ประชาชน ลดภาระ สร้างรายได้ กระจายความเจริญตามยุทธศาสตร์ พปชร.


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า การดำเนินนโยบายในด้านต่างๆ ที่จะช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศของไทยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา โดยได้เร่งรัดโครงการพื้นฐานต่างๆ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกลไกการทำงานของคณะกรรมการที่กำกับดูแลในด้านต่างๆ ของภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการบูรณาการหลายหน่วยงาน ในโครงการขยายเส้นทางคมนาคมระบบรางที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นระบบโลจิสติกส์ที่ความสำคัญ ต่อการใช้บริการของประชาชน และการขนส่งสินค้าที่มีต้นทุนต่ำ ช่วยให้เกิดการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับชุมชนทั่วประเทศ รวมถึงโครงการนำระบบดิจิทัล ที่มีแผนกระจายไปยังชุมชนเพื่อสร้างโอกาสในมิติต่างๆ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็ง

“เชื่อว่าการฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังจากนี้จะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆที่รัฐต้องเข้าไปสนับสนุนให้ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง ในการกำกับดูแลผ่านคณะกรรมการชุดต่างๆ ขณะนี้ได้เร่งให้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเร่งจัดทำโครงการให้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว เพราะต้องยอมรับว่าโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงต้องหาระบบและกลไกต่างๆที่จะไม่สร้างภาระกับประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้าไปทำงานในพื้นที่เพื่อดูแลปากท้องของประชาชน ผ่านกลไกส.ส.ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูล ความต้องการที่แท้จริง ซึ่งขณะนี้เราได้รวบรวมบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ทั้งคนในพรรคและคนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากทั้งภาคเอกชน และสถาบันต่างๆ มาร่วมทีมในการวางยุทธศาสตร์ใหม่ ให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต เพื่อการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในแต่ละพื้นที่ ที่มีความแตกต่างกันของแต่ละภาค” พล.อ.ประวิตร กล่าว


พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในการขยายเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางในพื้นที่ภาคเหนือ เชื่อมต่อกับช่วง ลพบุรี-ปากน้ำโพ ในการดำเนินโครงการช่วง ปากน้ำโพ-เด่นชัย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท) ซึ่งมีระยะทาง 280.544 กิโลเมตร ผ่าน 5 จังหวัดได้แก่ นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และแพร่ โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ที่มีตนเป็นประธาน ได้ผ่านการเห็นชอบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ EIA และมาตรการแผนการดำเนินงาน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อไปสู่ขั้นตอนการพัฒนาโครงการ ซี่งอีกไม่นานโครงการรถไฟรางคู่จะสามารถเชื่อมโยงได้ทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด

ส่วนเป้าหมายการเพิ่มโอกาสให้กับประชาชนเข้าถึงระบบดิจิทัล ได้พิจารณาโครงการต่างๆผ่านคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) ที่ได้รับความสนใจมีผู้ยื่นขอรับทุน 646 โครงการแสดงให้เห็นถึงทิศทางการพัฒนาของประเทศในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประโยชน์ โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจ การดำเนินชีวิตของประชาชน ให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศ มีการสนับสนุนให้เกิดการวิจัยและพัฒนาด้านดิจิทัล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ที่จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก

อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการพัฒนาประเทศ ยังมีมิติทางสังคมที่เป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ จากปัญหาฝุ่น P.M 2.5 ที่ยังเกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นภัยทางสังคมและสุขภาพของประชาชน โดยต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นในประเทศ และเวทีนานาชาติ


ในส่วนของการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทยให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น ที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในทุกขั้นตอน พร้อมวางกลไกการส่งต่อระดับชาติ แนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการคดี การกำกับและติดตามแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือ IOM นับว่าประเทศไทยเป็นต้นแบบในภูมิภาคอาเซียน ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงปฎิบัติการเชิงรุกของทุกหน่วยงาน เพื่อผลักดันให้ประเทศ ได้รับการพิจารณาในรายงานทิพรีพอร์ต (2021 US TIP Report) จัดอันดับให้ไทยในอยู่ในลิสของประเทศ เทียร์ 2 ในปี 2565

สำหรับการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ที่ภาครัฐได้ออกมาตรการ ทั้งการป้องปราม รณรงค์ และการส่งเสริมลดการเผาขยะทางการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์ PM 2.5 ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล รวมทั้งพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดในปี 2565 พบว่ามีแนวโน้มดีขึ้น โดยมีจำนวนวันที่ PM 2.5 เกินมาตรฐานลดลง รวมถึงจำนวนจุดความร้อนในจังหวัดภาคเหนือพบว่าลดลงร้อยละ 69 เป็นแนวทางที่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ที่มีเป้าหมายในการดูแลสิ่งแวดล้อม และสุขอนามัยภาพรวมทั้งประเทศ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่