พปชร. แถลงค้านกรอบ MOU 2544

รัฐสภา 30 ต.ค.-พปชร. แถลงค้านกรอบ MOU 2544 เตรียมยื่นจดหมายเปิดผนึก จี้นายกฯ ยกเลิกด่วน ก่อนเสียดินแดน โต้ “ภูมิธรรม” เกาะกูดอยู่ในใจกัมพูชา บอก “ลุงป้อม” เล่าเอง เจรจาทีไรพูดถึงทุกที จนต้องเลื่อนออกไป

พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร พร้อมด้วย นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานด้านวิชาการของพรรค และ หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรค ร่วมกันแถลงข่าวที่รัฐสภาคัดค้านการเจรจาผลประโยชน์ปิโตรเลียมในกรอบ MOU 2544


นายไชยมงคล กล่าวว่า จากการประชุมพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน ได้มีการหารือและถอดบทเรียนอย่างละเอียด กรณี MOU 2544 จึงมีความเห็นร่วมกันว่า MOU 2544 จะนำไปสู่การเสียดินแดนของคนไทย ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐ จึงขอแสดงจุดยืนว่า พรรคจะรักษาอธิปไตยของชาติ ไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มใดมาแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ หรืออาณาเขต โดยเตรียมเข้าชื่อ เพื่อทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้หยุดการเจรจาในการทำการแบ่งปันก๊าซปิโตรเลียม และน้ำมัน ให้กับกัมพูชา เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ชอบ โดยจำเป็นต้องคุยเรื่องอาณาเขตให้ชัดเจนก่อน

ด้าน ธีระชัย กล่าวว่า ข้อความในเอกสาร  MOU 2544 ประกอบแผนที่แนบ แสดงว่า 2 ประเทศได้ยอมรับว่ามีพื้นที่พัฒนาร่วม เพื่อให้ทำการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ปิโตรเลียม แต่ขอบพื้นที่ดังกล่าวด้านทิศตะวันตก ใช้เส้นเขตแดนในทะเลที่ประกาศโดยกัมพูชา ปี 2515 โดยมีจุดตั้งต้นในเส้นที่พาดผ่านเกาะกูด เมื่อ ได้ตรวจสอบหลักฐานแล้ว พบว่าขัดกับสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 ดังนั้น จึงมีความเห็นว่าพื้นที่พัฒนาร่วมตามที่ระบุใน MOU 2444 ขัดกับสนธิสัญญาฯ ย่อมทำให้เอกสาร MOU 2544 ทั้งฉบับผิดกฎหมาย


“ผมไม่ขัดข้องที่รัฐบาลจะเจรจาหาทางลงทุนร่วมกับกัมพูชา แต่ขัดข้องถ้าหากรัฐบาลจะใช้ MOU 2544 เป็นกรอบในการเจรจา เพราะนอกจากเห็นว่าผิดกฎหมายแล้ว ยังอาจจะทำให้ไทยเสียดินแดนอีกด้วย”

นายธีระชัย ยังย้ำว่า ถ้าหากกัมพูชายอมรับว่าไทยมีเอกสิทธิ์ในเกาะกูดอย่างสมบูรณ์แต่ผู้เดียวจริง กัมพูชาจะต้องยอมรับไทยลากเส้นห่างจากชายฝั่งของเกาะกูด 200 ไมล์ทะเล ตามกติกาสากล ไม่ใช่ลากเส้นพาดผ่านเกาะกูด ซึ่งการที่ใน MOU 2544 ไทยยอมรับเส้นพาดผ่านเกาะกูดนั้น ย่อมหมายความได้ว่าไทยยอมให้กัมพูชามีสิทธิ์ในเกาะกูดครึ่งหนึ่ง เป็นการทำให้ไทยเสียดินแดนชัดเจน

ส่วนกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม บอกว่าไม่ต้องห่วงเรื่อง MOU 2544 เพราะกัมพูชาไม่สนใจพื้นที่เกาะกูดนั้น นายธีระชัย บอกว่า พลเอก ประวิตร ได้เล่าให้ตนฟังว่า สมัยที่เป็นรองนายกฯ และเป็นประธานคณะกรรมการด้านเทคนิคฝ่ายไทย ในการเจรจากับกัมพูชา ซึ่งเจรจาไปได้ไม่นาน กัมพูชาก็พูดถึงเกาะกูดทุกครั้ง พลเอก ประวิตร จึงสั่งให้เลื่อนการเจรจาออกไป ทำให้การเจรจาไม่บรรลุผลสำเร็จ แต่เป็นที่ชัดเจนว่า เกาะกูดอยู่ในใจของกัมพูชาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเราต้องฝากความหวังไว้ที่ พลเอก ประวิตร เพื่อจะช่วยรักษาดินแดนของไทยเอาไว้


ขณะที่ หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ พูดถึงความแตกต่างที่ต้องระวังอย่างยิ่งของพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา โดยเปรียบเทียบกับพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-มาเลเซีย กับ ไทย-เวียดนาม ที่สามารถปฏิบัติตามกฏหมายสากล แล้วยังมีพื้นที่ทับซ้อนกัน แต่ก็ได้เจรจา ในขณะที่ไทย-กัมพูชา มีการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลปี 2513 โดยไทยยึดมั่นตามอนุสัญญาเจนีวา 1958 ระหว่างเจรจา ฝ่ายกัมพูชาก็ประกาศเส้นเขตแดนในปี 2515 โดยไม่ได้เป็นไปตามกฏหมายสากลเพื่อรักษาสิทธิฝ่ายไทย จึงมีประกาศพระบรมราชโองการกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทย ฝั่งอ่าวไทยปี 2516 ทำให้เห็นได้ว่าเส้นที่ฝ่ายกัมพูชาประกาศไปนั้น เป็นการล่วงล้ำพระราชอาณาเขต ทำให้การเจรจายุติลง

แต่เพียง 2 เดือน ของรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ปี 2544 รัฐบาลนำเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างเร่งรีบ เริ่มเจรจา 21 เมษายน 2544 และตกลงเซ็นเอ็มโอยู 2544 ในวันที่ 4 มิถุนายน 2544 รวมเวลาเจรจา 44 วัน โดยไทยเปลี่ยนท่าทีจากเดิม คือไม่รักษาสิทธิอันพึงมีของไทยตามกฎหมายสากล กลับยอมรับเส้นของกัมพูชาขีดทับอาณาเขตของราชอาณาจักรไทยเป็นครั้งแรก จนเกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ใหญ่โตมากถึง 26,000 ตารางกิโลเมตร ทั้งที่พื้นที่นี้เดิมไม่มีกฎหมายรับรอง

ดังนั้นการที่รัฐบาลอ้างการพัฒนาปิโตรเลียมร่วมกัน บดบังสาระสำคัญที่ไทยเปลี่ยนสถานะจากผู้ที่เป็นฝ่ายถูก เพราะยึดมั่นในกฎหมายสากล กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที เพราะเปิดโอกาสให้กัมพูชานำพื้นที่ที่ได้มาโดยไม่มีกฎหมายสากลรับรอง เข้ามาเจรจาได้ ซึ่งแตกต่างจากกรณีไทย-มาเลเซีย อย่างชัดเจน

พรรคพลังประชารัฐ จึงเรียกร้องให้นายกฯ ยกเลิก MOU 2544 โดยเร็วที่สุด เนื่องจากแผนที่แนบท้าย MOU 2544 เขตของกัมพูชาได้รวมเอาน่านน้ำภายในของจังหวัดตราด เกาะกูด และทะเลอาณาเขตของไทยเข้าไปด้วย ทำให้ไทยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และมีโอกาสเสียดินแดน เช่นเดียวกับเขาพระวิหาร คล้ายกับกรณีฝรั่งเศสที่เข้ายึดพื้นที่ของสยาม เพื่อเป็นตัวประกันในการเจรจาต่อรอง

นายชัยมงคล กล่าวปิดท้ายว่า ใครจะว่าเราคลั่งชาติ เราไม่ใส่ใจ เราจะไม่ค้อมหัวให้คนที่ต้องการผลประโยชน์ทับซ้อน และไม่ต้องการคุกเข่าให้คนที่จะมาแสวงหาผลประโยชน์กับแผ่นดินไทย เราจะปกป้องแผ่นดินนี้ แม้จะเป็นคนสุดท้ายก็ยอม โดยเราจะต่อสู้ทั้งในและนอกสภา ส่วนการยื่นหนังสือเปิดเผยถึงนายกรัฐมนตรีจะมีการนัดหมายกันอีกครั้ง

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นในเรื่องนี้หรือไม่ นายชัยมงคล กล่าวว่า เราพร้อมคุยกับทุกพรรคการเมือง และประชาชนทุกคน ที่ต้องการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ส่วนถ้ายื่นไปแล้วไม่มีการตอบสนองจากนายกฯ ในทางนอกสภา จะทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าถึงเวลาที่ต้องลุกมาปกป้องดินแดน ส่วนในสภาก็จะดำเนินการตามขั้นตอน.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย