“เลิศศักดิ์” ติง พปชร. ปูดอักษรย่อคนเพื่อไทยเอี่ยว ดิไอคอน ไร้สาระ

รัฐสภา 30 ต.ค.-“เลิศศักดิ์” ติง พปชร. ปูดอักษรย่อคนเพื่อไทยเอี่ยว ดิไอคอน ไร้สาระ ไล่แก้ปัญหาพรรคตัวเองก่อน ไม่ใช่มาโยนให้พรรคอื่น ย้ำ กมธ.ฟอกเงินฯ ไม่ปล่อย สอบให้ถึงที่สุด

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมที่มีวาระเรื่องการพิจารณากรณี ดิไอคอน ว่า เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรได้มีการลงมติมอบหมายให้ทางกรรมาธิการศึกษาและแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ โดยในวันนี้ได้มีการเชิญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตำรวจสอบสวนกลางและผู้เสียหาย มาให้ข้อมูล


ซึ่งจะมีการติดตามในส่วนของ ปปง.เรื่องของการอายัดทรัพย์สิน ว่ามีความคืบหน้า และมีความเหมาะสม มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้เนื่องจากคดีมีการโอนให้กับดีเอสไอ ไปแล้ว แต่ในส่วนของตำรวจสอบสวนกลางก็จะมีการสอบถามถึงการดำเนินการและความคืบหน้า

โดยในวันนี้จะติดตามในส่วนของ ปปง. ในเรื่องของการยึดอายัด ว่ามีการยึดอายัดของใคร เท่าไหร่บ้าง และมีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน รวมถึงเส้นทางทางการเมืองว่าเท่าที่ ปปง.ตรวจสอบแล้วโยงไปถึงบุคคลใดอีกบ้าง และเนื่องจากคดี มีการโอนให้กับดีเอสไอไปแล้ว แต่ในส่วนที่ตำรวจสอบสวนกลาง ดำเนินการไปแล้วมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว และผู้ที่จะต้องถูกกล่าวหาในคดีนี้จะต้องเป็นคนกลุ่มไหนบ้าง ซึ่งเบื้องต้นจะสอบถามถึงการรับแจ้งความ ว่าเนื้อหาหลักๆ เป็นอย่างไร และคนที่จะเป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหาจะต้องเป็นคนกลุ่มไหนเพราะมีการโยนกันไปโยนกันมา ระหว่างผู้เสียหายกับแม่ข่าย วันนี้จะต้องหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้


ส่วนที่ ตำรวจสอบสวนกลางบอกว่าคดีนี้เป็นแชร์ลูกโซ่นั้น นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า หน่วยงานหลักขณะนี้เป็น ดีเอสไอ และ ปปง. ซึ่งมีอำนาจในการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของผู้ต้องสงสัยและผู้ถูกกล่าวหาอยู่แล้ว ดังนั้นกรรมาธิการก็มีแนวทางที่จะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดไม่ลดละและไม่ปล่อย ถ้าหากมีการพิจารณาในกรรมาธิการชุดใหญ่ 2-3 ครั้ง แล้วยังไม่จบก็จะต้องมีการตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ส่วนกรณีดิไอคอนขยายไปไกลถึงทนายตั้ม กับมาดามอ้อย ที่อ้างว่าตบทรัพย์กัน จะต้องตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้มากน้อยแค่ไหน ตอนนี้เรารับภารกิจจากสภาผู้แทนราษฎร เราก็ต้องเน้นในเรื่องของเนื้อหาสาระหลักเกี่ยวกับคดีดิไอคอน เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่การฉ้อโกง ประชาชน รวมถึงจะมีการพิจารณาแก้ไขกฎหมายหรือเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่ผ่านการศึกษาแล้วให้เป็นปัจจุบัน

นายเลิศศักดิ์ ยังถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ พาดพิงว่าเทวดาจริงๆ แล้วอยู่ในพรรคเพื่อไทย พร้อมกับเปิดเผยอักษรย่อออกมาด้วยว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบคณะกรรมาธิการคณะนี้ ไม่มีส่วนใดๆ เกี่ยวกับคดีดิไอคอน ไม่มีแม้กระทั่งของสภาชุดที่แล้ว และสบายใจได้ว่าเรามีความบริสุทธิ์ใจในการดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่แน่นอน ตัวอักษรย่อนั้นก็คงต้องตรวจสอบ และหาให้ได้ว่าชื่อจริงคือใคร หากมีความเชื่อมโยงอาจจะมีการเชิญมาชี้แจงด้วยถ้ามีจริง


สำหรับคนอักษรย่อดังกล่าว เคยเป็นประธานกรรมาธิการในสมัยที่แล้วนั้น นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงินและยาเสพติด แต่อาจจะเป็นคณะอื่นหรือไม่ตนมองว่า ไม่มีสาระ เพราะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องในอดีตเรื่องนี้ที่ผ่านมา ก็มีแค่กรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคและกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด แต่กรรมาธิการก็ไม่ได้มีเหตุให้ตรวจสอบทุกๆเรื่อง ดังนั้นช่วงก่อนหน้านี้อาจจะไม่มีผู้ร้องเรียนหรือเรื่องไม่เข้าสู่กรรมาธิการก็ไม่ได้มีการตรวจสอบก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับกรรมาธิการด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นการกล่าวอ้างมาถึงโดยที่ไม่ให้ข้อมูลเหตุผลที่เพียงพอก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เรื่องนี้เป็นแค่ความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ความเข้าใจผิดและสำคัญผิดกรรมาธิการไม่ได้มีหน้าที่ในการติดตามในทุกเรื่องทุกขั้นตอน บางเรื่องหากไม่มีการร้องเรียนเข้ามากรรมาธิการก็ไม่ทราบ แต่ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามาแล้วไม่ปฏิบัติไม่ติดตามถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

สำหรับกรณีที่มีการพาดพิงถึงพรรคเพื่อไทยนั้น ยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น พร้อมมองว่า เป็นมารยาทของพรรคการเมืองด้วยเช่นเดียวกันก็ควรจะแก้ปัญหาของตนเองให้เรียบร้อยไม่ใช่มาโยน พาดพิงถึงพรรคอื่นตนคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสม ต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาดีๆ เรื่องนี้โดยตรงไปเกี่ยวข้องกับบุคคลในพรรคการเมืองที่อาจจะพูดถึงเพราะ

ส่วนการตรวจสอบนักการเมือง ส.เสือ ที่มีการชิงลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จะมีการตรวจสอบเรื่องคลิปเสียง เพื่อโยงไปถึงเส้นเงินด้วยหรือไม่ นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า หากมีความเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวพัน กับเส้นเงินของดิไอคอน ทางกรรมาธิการก็จะเชิญนักการเมือง ส.เสือ มาสอบเช่นเดียวกัน เราจะทำเรื่องของการฉ้อโกงในส่วนของ ดิไอคอน เป็นหลัก

“สส.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับเรื่องนี้แน่นอนตามที่ข้อกล่าวอ้างของพรรคการเมืองบางพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ปฏิบัติหน้าที่ในกรรมาธิการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน แต่คนที่ไม่ใช่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้วเอาตำแหน่งในกรรมาธิการที่ได้รับการแต่งตั้งไปใช้ประโยชน์ไปหากิน อันนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ถ้าอยู่ในพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองนั้นต้องดูแลและจัดการให้เรียบร้อย”นายเลิศศักดิ์กล่าว

ส่วนประเด็นที่มีการรีดไถเงินผู้เสียหายนั้น หากตรวจสอบเส้นทางทางการเงินแล้วเชื่อมโยง ก็ต้องเชิญมาสอบ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]