“เฉลิมชัย” สั่งกรมชลฯ พร้อมรับน้ำมากปีนี้

กรุงเทพฯ 9 พ.ค.- รมว.เกษตรฯ สั่งกรมชลประทานเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง กรมอุตุฯ คาดปีนี้ฝนจะมากกว่าค่าเฉลี่ย 3% ทั้งยังมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ไทย 1-2 ลูก อธิบดีกรมชลประทานระบุ ได้กำหนดพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จัดสรรเครื่องจักรไปประจำทุกภาค บริหารจัดการน้ำเต็มศักยภาพ


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ประชุมมอบนโยบายการเตรียมรับมือฤดูฝน ปี 2565 แก่กรมชลประทาน ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ฤดูฝนประมาณกลางเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงปกติและจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม 2565 โดยปริมาณฝนรวมของทั้งประเทศในช่วงฤดูฝนตกมากกว่าค่าปกติร้อยละ 3 ซึ่งต่ำกว่าปี 2564 ที่มีฝนตกสูงกว่าค่าปกติถึงร้อยละ 8 ทั้งนี้ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงที่ฝนจะตกน้อย หลังจากนั้นฝนจะตกชุกหนาแน่นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน โดยคาดว่า จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนสู่ประเทศไทย 1-2 ลูก

ทั้งนี้ได้ย้ำแก่อธิบดีกรมชลประทานว่า ให้บริหารจัดการน้ำตามปริมาณน้ำต้นทุนและความต้องการใช้น้ำทุกภาคส่วนโดยตั้งเป้าหมายว่า เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนจะสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้มากกว่าปีที่ผ่านมา แม้ปีนี้จะมีฝนกว่าค่าเฉลี่ย แต่คาดว่า ปริมาณพื้นที่เพาะปลูกจะมากกว่าแผนที่กำหนดไว้ซึ่งย้ำแก่กรมชลประทานให้ดูแลเกษตรกร พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือทั้งเกษตรกรและประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า โดยไม่ได้ “ขี้เหนียวน้ำ” แต่น้ำต้นทุนมีจำกัดขณะที่ความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นทุกภาคส่วน ล่าสุดมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรจัดทำแผนเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยเพิ่มเติมเพื่อเป็นทางเลือกแก่เกษตรกรซึ่งจะทำเสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้ 


สำหรับการเตรียมการรับมืออุทกภัย กรมชลประทานได้วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ปริมาณน้ำในลำน้ำ กำหนดคน กำหนดผู้รับผิดชอบในพื้นที่ต่างๆ ที่อาจจะได้รับผลกระทบ รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานจังหวัด ร่วมกันติดตามและวิเคราะห์หรือคาดการณ์สถานการณ์น้ำในลำน้ำ การจัดสรรทรัพยากร เช่น เครื่องสูบน้ำเครื่องจักรกล รถขุด รถแทรกเตอร์ หรือเครื่องมือต่างๆ ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา โดยในวันนี้ปล่อยคาราวานเครื่องจักรกลและเครื่องมือต่างๆ ที่ประจำอยู่ที่ศูนย์บริหารเครื่องจักรกลที่ 1-7 ของสำนักเครื่องจักรกล 5,382 หน่วยออกไปเตรียมพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศตลอดช่วงฤดูฝนนี้ 

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า การบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 ได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 30 เมษายน โดยผลการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ การเกษตร รวมไปถึงการควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำสายหลักต่างๆ เป็นไปตามแผนที่วางไว้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้ง โดยปฏิบัติตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 ทั้ง 8 มาตรการอย่างครบถ้วน 

สำหรับการจัดสรรน้ำในภาพรวมทั้งประเทศพบว่า มีการใช้น้ำไปทั้งสิ้น 22,998 ล้าน ลบ.ม. (แผนจัดสรรน้ำทั้งประเทศจัดสรรไว้รวมทุกกิจกรรม 22,280 ล้าน ลบ.ม. สำรองน้ำต้นฤดูฝน 15,557 ล้าน ลบ.ม.) เกินแผนที่ตั้งไว้เล็กน้อย  ด้านผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งทั้งประเทศ มีการเพาะปลูกรวมกว่า 8.11 ล้านไร่ (แผนวางไว้ 6.41 ล้านไร่) 


ทั้งนี้กรมชลประทานส่งน้ำเกินแผนไปประมาณ 718 ล้าน ลบ.ม. แต่เกษตรกรสามารถทำการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งได้เพิ่มอีก 1.7 ล้านไร่ ต่างจาก 2-3 ปีก่อนหน้าที่ขอความร่วมมือเกษตรกรให้ชะลอการทำนาปรังเนื่องจาดน้ำไม่เพียงพอแต่ในฤดูแล้งที่ผ่านมา กรมชลประทานสามารถบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ตามปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ ได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยการจัดสรรน้ำอย่างประณีต ทำให้เกษตรกรในเขตชลประทานมีรายได้จากการเพาะปลูกพืช กระทั่งในวันเริ่มต้นฤดูฝน 1 พฤษภาคม มีน้ำต้นทุนอยู่ 19,950 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 4,393 ล้าน ลบ.ม. ถือว่าเป็นกำไร 

นายประพิศกล่าวถึงแผนการจัดสรรน้ำและการเพาะปลูกพืชฤดูฝนปี 2565 ว่า กรมชลประทานได้วางแผนบริหารจัดการน้ำ โดยส่งเสริมการเพาะปลูกพืชฤดูฝนให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก แล้วใช้น้ำชลประทานเสริมกรณีฝนทิ้งช่วงหรือปริมาณฝนตกน้อยกว่าคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมกันนี้ยืนยันว่า ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำภายใต้มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2565 ทั้ง 13 มาตรการของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 และพร้อมปฏิบัติอย่างเต็มประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่