วอชิงตัน 6 พ.ค. – ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยมิเนอร์วาและมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการป่วยรุนแรงเท่า ๆ กับเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งขัดแย้งกับผลวิจัยหลายชิ้นก่อนหน้าที่ชี้ว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงน้อยกว่า
คณะนักวิจัยระบุในผลวิจัยล่าสุดที่กำลังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการว่า พบอัตราผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและอัตราผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอยู่ในระดับเท่ากันกับช่วง 2 ปีก่อนที่มีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ อย่างไรก็ดี นักวิจัยจากโรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์ มหาวิทยาลัยมิเนอร์วาและโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ดของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นผู้เขียนงานวิจัยชิ้นนี้ ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติมจนกว่าขั้นตอนตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจะเสร็จสิ้น ทั้งนี้ ผลวิจัยดังกล่าวได้ทำการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยโควิด 130,000 คนในรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐ
นพ. อาจุน เวนกาเทช จากโรงเรียนแพทย์เยลของมหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐ ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลวิจัยดังกล่าว ระบุว่า ผลวิจัยชิ้นนี้มีความโดดเด่นและชัดเจนมาก เนื่องจากไม่ได้ศึกษาเรื่องตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลเพียงอย่างเดียวเหมือนกับผลวิจัยก่อนหน้านี้ แต่ยังศึกษาเกี่ยวกับสถานะการฉีดวัคซีนโควิดและปัจจัยเสี่ยงทางการแพทย์ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับกลุ่มที่มีสถานะใกล้เคียงกัน เขามองว่า หากไม่มีวัคซีนและยารักษาโรคโควิดมากขึ้นดังเช่นในปัจจุบัน เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจมีความรุนแรงกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งขัดแย้งกับผลวิจัยและสมมติฐานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายคนที่ระบุก่อนหน้านี้ว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการป่วยรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความลังเลในการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด.-สำนักข่าวไทย