ทำเนียบรัฐบาล 3 พ.ค.-นายกฯ แจงกู้เงินญี่ปุ่น 5 หมื่นล้านเยน อยู่ในกรอบพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน ใช้แก้ปัญหาโควิด-19 บริเวณด่านพรมแดน พ้ออย่าว่าเอาแต่กู้เงิน การเงินการคลังเข้มแข็ง ถึงกู้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับรัฐบาลไทยจำนวน 5 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 13,235 ล้านบาท ในลักษณะเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ว่า เรื่องเงินกู้จากญี่ปุ่นยอดเงินจำนวนนี้ กู้อยู่ในยอด พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่อนุมัติไปแล้ว โดยการกู้เงินจะทยอยกู้ตามความจำเป็นจากแหล่งเงินกู้ในประเทศเป็นหลัก ซึ่งญี่ปุ่นมาช่วยและถ้าเราจะกู้ เขาให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่มีข้อแม้ต้องดูแลเรื่องโควิด-19 การพัฒนาการตรวจคัดกรองโควิดบริเวณด่านพรมแดน ซึ่งยังมีหลายปัญหาเรื่องการคัดกรอง จึงต้องใช้งบประมาณอยู่ในขั้นตอน
“อย่ามาบอกว่ารัฐบาลกู้เงินอีกแล้วเลย ทุกคนต้องเข้าใจ เราบริหารอย่างระวังที่สุดแล้วเรื่องการบริหารการเงินการคลัง ซึ่งเรายังเข้มแข็งอยู่ ถ้าไม่เข้มแข็งพอ ขอใครก็ไม่ให้กู้ เราก็กู้เท่าที่จำเป็น ต้องดูว่ากู้มาทำอะไร ใครได้ประโยชน์” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า เรื่องเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีขอให้นำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกู้เงินให้ถูกต้องด้วย ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงในที่ประชุมครม. ว่าเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับช่วยเหลือวิกฤติโควิด- 19 ไม่ใช่กู้เงินใหม่ แต่เป็นเงินกู้ที่อยู่ในกรอบพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่ต้องกู้เงินจากภายนอก เพราะสภาพคล่องภายในประเทศลดลง รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเสนอเงื่อนไขการกู้ที่ดีมาก และนายกรัฐมนตรีย้ำว่าการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปตามที่ได้รับการจัดสรรแล้ว.-สำนักข่าวไทย