นครศรีธรรมราช 28 เม.ย.- สาวเคยป่วยไบโพลาร์ยอมรับเเล้ว กุเรื่องมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระนักเทศน์หนุ่มที่มีชื่อเสียงทางภาคใต้ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ยันมีใบรับรองแพทย์และตอนนี้หายดีเเล้ว อยากขอโทษสังคม ขอโทษทุกคน และขอโทษพระพุทธศาสนาที่ทำให้เสื่อมเสีย
กรณีเกิดเหตุการณ์มีคลิปเสียงและข้อความในไลน์พูดคุยกันระหว่างหญิงสาวคนหนึ่ง และเสียงผู้ชายคาดว่าเป็นพระภิกษุ มีการระบุว่าเป็นพระนักเทศน์หนุ่มที่มีชื่อเสียงในภาคใต้ แอบมีสัมพันธ์กับหญิงสาวในรถยนต์ ต่อมาหญิงสาวรายนี้ได้ไลน์ไปขอคำปรึกษาจากพระธนวัฒน์ จกฺกวโร พระภิกษุวัดหน้าพระลาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จนเป็นข่าวใหญ่ และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น
ล่าสุดในวันนี้ (28 เม.ย.) หญิงสาวรายนี้ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จริงๆ แล้วตนเองป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 ไปหาหมอ 2 ที่ และตอนนี้ปกติดีแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ระหว่างการรักษาช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งคลิปเสียงและข้อความที่แชทกันนั้น ได้สร้างเรื่องขึ้นมา เพราะป่วยและอารมณ์ไม่ปกติของตัวเอง ต้องขอโทษสังคม ขอโทษทุกคน และขอโทษพระพุทธศาสนาที่ทำให้เสื่อมเสีย แต่ปัจจุบันหายดีแล้ว กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนใบรับรองแพทย์ก็มี ซึ่งคนที่ป่วยเป็นโรคนี้จะคิดไปได้หมด หรือมีจิตนาการณ์แล้วก็ลงมือทำ
ก่อนหน้านี้ พระพงศกร ปภัสสโร หรือ “หลวงพี่กาโตะ” รักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ว่า อาตมาบอกว่าหลังรับทราบเรื่องรู้สึกตกใจว่ามันมาได้อย่างไร มันเกิดอะไรขึ้น และทำไมเสียงในคลิปเหมือนเรา และยังคิดว่าถูกแกล้งเกิดขึ้นจากคนที่ไม่พอใจอะไรสักอย่าง แต่ด้วยความที่เราบริสุทธิ์ใจ รู้สึกว่าเราเต็มที่กับงานนิมนต์ พัฒนาวัด ไม่มีเวลาไปมั่วสุมเรื่องแบบนั้น จะจริงหรือไม่จริงเรารู้อยู่ในอก หลังเป็นข่าวก็ไม่รู้สึกอะไร ข่าวที่เกิดขึ้นต้องรอเวลา รอความยุติธรรม รอให้ความจริงปรากฏ ให้ความจริงเป็นไปตามเรื่องของมันดีกว่า
ล่าสุด วันนี้ที่วัดเพ็ญญาติ อ.ฉวาง นครฯ ชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาที่วัดเพื่อให้กำลังใจ พระกาโตะ โดยชาวบ้านที่เดินทางมาระบุว่าไม่เชื่อที่มีคลิปข่าวออกไปเพราะจากการสัมผัสพระกาโตะ เป็นพระที่เป็นนักพัฒนาและช่วยสร้างวัดเพ็ญญาติ
ด้านพระกาโตะ เผยหลังจากมีคลิปเสียงผู้หญิงยอมรับว่ากุเรื่องดังกล่าวขึ้นมาว่า คงจะไม่พูดอะไรมากอยากให้เรื่องได้ยุติให้ไว เพราะเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียต่อวงการพระพุทธศาสนา และอาตมาก็คงจะไม่ฟ้องร้องหรือเอาเรื่องเอาราวกับใครเพราะเราเป็นพระ ไม่อาฆาตมาดร้าย ขออโหสิกรรมให้ทุกคน อาตมาก็จะตั้งหน้าตั้งตาศึกษาพระธรรมและพัฒนาวัดต่อไป.-สำนักข่าวไทย
