นครศรีธรรมราช 8 พ.ค.-ผบก.ปปป. สอบปากคำ เจ้าอาวาสวัดบุปผารามฯ กรณีตั้งอดีตพระกาโตะ เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ เบื้องต้นพบอาจมีเงินถูกเบิกจ่ายไม่ถูกต้องนอกเหนือจากยอด 6 แสนบาท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เปิดเผยหลังเข้าสอบปากคำ พระราชวรญาณเจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร นานกว่า 50 นาที ว่า วันนี้ได้สอบปากคำ พระราชวรญาณเจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร ในประเด็นเกี่ยวกับการรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ ที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ มีลายลักษณ์อักษร หรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อมูลว่าอดีตพระกาโตะ ไม่น่าจะเป็นเจ้าพนักงานเนื่องจากเป็นการแต่งตั้งแบบไม่เป็นทางการ หลังจากนี้ จะมีการนำข้อมูลดังกล่าวไปหาหรือกับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อหาแนวทางและจะให้โอนคดีไปกองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบหรือไม่ ในกรณีที่อดีตพระกาโตะไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน ส่วนความสัมพันธ์ของพระราชวรญาณเจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร และวัดเพ็ญญาตินั้นมีลักษณะเป็นวัดเครือญาติกัน โดยอดีตเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ (หลวงพ่อกล่อม) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวัด เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระราชวรญาณเจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร ภายหลังหลวงพ่อกล่อมมรณะภาพก็ได้ฝากฝั่งให้ พระราชวรญาณ เป็นผู้ดูแลต่อ โดยมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากเจ้าคณะตำบลในพื้นที่ แต่เนื่องจากระยะทางที่ค่อยข้างไกล ทำให้พระราชวรญาณ ไม่ได้ลงไปดูและกิจการของวัดเพ็ญญาติด้วยตัวเอง แต่จะลงไปเฉพาะศาสนพิธีสำคัญเท่านั้น จึงมีการมอบหมายให้พระกาโตะช่วยดูแลวัดดังกล่าวในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส
ทั้งนี้จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าอาจจะมีเงินของวัดที่ถูกเบิกจ่ายออกไปโดยไม่ถูกต้องนอกเหนือจากยอดเงิน 600,000 บาท ที่ถูกเบิกออกไปจากบัญชีวัดตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยยอดเงินได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนย้อนกลับไปตั้งแต่พระกาโตะเริ่มเข้ามาทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส นอกจากนี้ได้มีการสอบปากคำไวยาวัจกรของวัดไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายระเอียดได้ ส่วนที่จะมีการกระทำความผิดในลักษณะเป็นขบวนการหรือไม่ ตอนนี้หลักฐานยังไปไม่ถึงขนาดนั้น
ทั้งนี้มีรายงานว่าในสัปดาห์นี้จะมีการเชิญอดีตพระกาโตะและสีกาตอง เข้ามาสอบปากคำเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะครองสมณะเพศ และที่ไปที่มาของเงินจำนวน 600,000 บาท และประเด็นอื่นๆที่ตำรวจสืบสวนได้เพิ่มเติม โดยจะแยกนัดหมายคนละวันเพื่อป้องกันความวุ่นวาย.-สำนักข่าวไทย