กรุงเทพฯ 23 ธ.ค. – กรมการขนส่งทางบกรวมพลังผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถให้สัตยาบรรณขับขี่ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์ พร้อมเปิดโครงการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของกรมการขนส่งทางบกช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ภายใต้แนวคิด “Safe Drive Save Lives ปลอดภัยทุกชีวิต ขับรถเป็นมิตรผู้ร่วมทาง” เพื่อสร้างความตระหนักให้ผู้ขับขี่ทุกคนให้ความสำคัญกับการขับขี่อย่างปลอดภัย พร้อมร่วมมือกับผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะ ควบคุม กำกับ ดูแลพนักงานขับรถในสังกัดให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ 100% โดยผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถกล่าวให้สัตยาบรรณ “รวมพลัง สร้างสำนึกดี ผู้ขับขี่ไร้แอลกอฮอล์” เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางแก่ผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ
นายพิชิต กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมตระหนักถึงความสำคัญของการรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยทางถนน เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดบริการและอำนวยความสะดวกด้านระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างเพียงพอ ไม่ล่าช้า และต้องไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยให้กรมการขนส่งทางบกเข้มงวดตรวจสอบและดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางด้วยรถโดยสาธารณะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2559 – 4 มกราคม 2560 ตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระชาติ และกำหนดให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นนโยบายสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างจริงจัง ตั้งเป้าลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะให้เป็นศูนย์
ทั้งนี้ เน้นมาตรการเข้มงวดตรวจสอบความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะควบคู่กับการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดตรวจบนถนนสายหลักและสายรอง หรือจุดจอด/พักรถ และคุมเข้มตรวจวัดสารเสพติดและแอลกอฮอล์พนักงานขับรถและผู้ประจำรถทุกคน “ไร้สารเสพติด และแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” หากตรวจสอบพบก่อนปฏิบัติหน้าที่ให้เปลี่ยนพนักงานขับรถทันที และกรณีตรวจพบขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายและผู้ประกอบการต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อลดโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ความเร็ว กรมการขนส่งทางบกจัดหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องเลเซอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมการใช้ความเร็ว และการกำกับดูแลพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ทั่วประเทศตลอดการเดินทาง หากพบพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ หรือมีการกระทำผิดกฎหมาย กรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาลงโทษพนักงานขับรถ รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งยังมีความผิดและต้องมีส่วนรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดทั้งหมดด้วย นอกจากนี้ ยังมีการตั้งจุดตรวจความพร้อมบนถนนสายหลัก 12 จังหวัด ต่อเนื่องตลอดเทศกาล โดยให้พนักงานขับรถลงมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง ได้แก่ กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง นครสวรรค์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ขอนแก่น ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และระยอง พร้อมเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารรถสาธารณะตลอดเวลาขณะเดินทาง ดำเนินการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง และทางโทรศัพท์สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประชาชนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว กรมการขนส่งทางบกจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ตรวจสอบความพร้อมของรถก่อนเดินทาง ซึ่งสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หรือนำรถเข้าใช้บริการตรวจความพร้อมฟรี กับหน่วยงานภาคเอกชนกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ ที่ร่วมโครงการ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ถวายพ่อหลวง” ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2560 และสำหรับในช่วง 7 วันของการเดินทาง กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ยังได้สนับสนุนงบประมาณให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคและวิทยาลัยการอาชีพตั้งจุดบริการอำนวยความสะดวกเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน บนถนนสายหลักทั่วประเทศ 189 จุด
นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าใช้บริการพักผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ณ เต็นท์อำนวยความสะดวกและตรวจความพร้อมของกรมการขนส่งทางบกที่มีสัญลักษณ์ “กรมการขนส่งทางบก Everyday for Everyone” ทุกวัน เพื่อทุกคน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่.-สำนักข่าวไทย