ทำเนียบ 2 ม.ค.- นายกฯ กำชับ ครม. น้อมนำพระราชดำรัสในหลวง เป็นแนวทางการทำงานปีใหม่ พร้อมแจ้งข่าวดี จีน ยกเว้น วีซ่าเข้าประเทศให้นักท่องเที่ยวไทยแบบถาวร เริ่ม 1 มี.ค.นี้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกของปี 2567 โดยใช้เวลาการประชุม 1.30 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น. สิ้นสุดในเวลา 10.00 น.
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้กำชับให้ ครม. น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 มาเป็นแนวทางในการทำงาน และสืบสานประเพณี วัฒนธรรมอันดีงาม และนับเป็นปีมหามงคล เพราะจะมีงานพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ซึ่งขณะนี้มีแผนงานที่ชัดเจน ขอให้คณะกรรมการและผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินงานอย่างเคร่งครัด
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง กรณีการยกเว้นวีซ่าเดินทางเข้าประเทศไทยให้กับ นักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น ล่าสุดมีข่าวดีว่า
จีนจะยกเว้น วีซ่าให้กับคนไทยในการเดินทางเข้าประเทศเป็นการถาวร โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ซึ่งจะทำให้การเดินทางของทั้งสองประเทศไม่ต้องใช้วีซ่า ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และได้สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งชี้แจง ว่าขณะนี้เราพร้อมแล้วสำหรับการเปิดประเทศ ขอให้ดูแลนักท่องเที่ยวให้ดี
ขณะเดียวกัน ครม. เห็นชอบเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ ได้มีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต และภาษีอากรประเภทต่างๆ เช่น สุราพื้นบ้านเป็น 0% และให้กรมสรรพสามิตทบทวนทบทวนกฎหมายต่างๆ ที่ช่วยเรื่องสุราพื้นบ้าน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการเพิ่มวันทำการประมงให้กับเรือประมง 1,200 ลำ เพื่อแก้ไขปัญหาประมงไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 20,000 คน สร้างรายได้ให้กับประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท ถือเป็นข่าวดีสำหรับพี่น้องชาวประมง
นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบ ให้รายงานผลการดำเนินงาน ตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง และพัฒนาความก้าวหน้าอย่างเต็มที่ของสตรี และคุ้มครองเด็กรวมถึงส่งเสริม ด้านการศึกษา ซึ่งบ่งบอกว่าประเทศไทยมีความก้าวหน้าเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและเท่าเทียม.-316.-สำนักข่าวไทย