กรุงเทพ 25 เม.ย. -ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับขึ้นอีกตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ปรับขึ้นแล้ว 4 ครั้ง รวมแพงขึ้น 10 บาทต่อกิโลกรัม สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติระบุว่า สาเหตุจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นซึ่งมีปัจจัยหลักจากราคาอาหารสัตว์ โดยยังรอแนวทางแก้ปัญหาของกระทรวงพาณิชย์
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติรายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม (สัปดาห์ที่ 16/2565) เมื่อวานนี้ (24 เมษายน) ซึ่งราคาสุกรหน้าฟาร์มตามภาคต่างๆ อยู่ที่ 96-98 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อวันที่ 16 เมษายนซึ่งราคาอยู่ระหว่าง 94-98 บาท ราคาปรับขึ้น 2 บาท ทำให้ราคาขายปลีกอยู่ระหว่าง 190-196 บาทต่อกิโลกรัม สมาคมระบุว่า ราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มเคลื่อนไหวตามกลไกของตลาดและต้นทุนการเลี้ยง ตลอดจนสภาวะอากาศร้อนส่งผลให้ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดช้าลง
หากย้อนดูราคาในรอบ 2 เดือนตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมพบว่า ราคาสุกรหน้าฟาร์มปรับขึ้น 4 ครั้งแล้ว โดยเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ราคา 86-88 ต่อกิโลกรัม วันที่ 10 มีนาคมปรับขึ้น 2-3 บาท เป็น 88-91 บาท ต่อมาวันที่ 1 เมษายนอยู่ที่92-96 บาทซึ่งปรับขึ้น 4-5 บาท จากนั้นวันที่ 16 เมษายนปรับขึ้นอีก 2 บาทเป็น 94-98 บาท และล่าสุด วันที่ 24 เมษายนปรับขึ้น 2 บาทเป็น 96-98 บาท ดังนั้นเมื่อรวมราคาที่ปรับขึ้นทั้ง 4 ครั้ง หมูหน้าฟาร์มแพงขึ้นอีก 10 บาทต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้สมาคมยังระบุว่า ผู้เลี้ยงสุกรทุกภูมิภาคทยอยขยับราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มเพื่อหนีสภาวะขาดทุน โดยต้นทุนจากการคำนวณโดยคณะอนุกรรมการต้นทุน Pig Board ไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 98.81 บาทต่อกิโลกรัม โดยก่อนหน้านี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติส่งหนังสือด่วนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งนำมติผ่อนคลายอากรขาเข้าเป็น0% สำหรับการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตามกรอบ WTO นำเข้ามาแก้ปัญหาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย