กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – สหกรณ์และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรหลายพื้นที่ประกาศราคาแนะนำหมูหน้าฟาร์ม โดยปรับเพิ่มอีก 4 บาท มีผลวันนี้ สาเหตุหลักมาจากสภาพอากาศที่ร้อน ทำให้หมูโตช้า ราคาตามประกาศใหม่นี้ จะทำให้ราคาที่เกษตรกรจำหน่ายได้ ขยับขึ้นใกล้เคียงกับต้นทุนการผลิตที่ 80 บาท/กิโลกกรัมตามการประเมินของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
สหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรชลบุรี สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ประกาศปรับราคาแนะนำสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มขึ้นอีก 4 บาทจากราคาเดิมในสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 68 – 75 บาท/กิโลกรัมขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ทำให้ราคาขยับเข้าใกล้ต้นทุนการผลิตตามการประเมินของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 78-80 บาท/กิโลกรัมมากขึ้น
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า กลุ่มผู้เลี้ยงรายย่อยต้องแบกรับภาระการขาดทุนต่อเนื่องมายาวนาน จนหลายรายต้องเลิกเลี้ยงไป การปรับเพิ่มราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มให้เข้าใกล้ต้นทุนการผลิตจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เลี้ยงรายย่อยได้
ทั้งนี้ราคาที่ประกาศเป็นราคาแนะนำเพื่อให้ทราบว่า ราคาที่เหมาะสมตามกลไกตลาดและผู้เลี้ยงไม่ขาดทุน ควรเป็นเท่าไร แต่การซื้อขายจริง จะต่ำกว่าราคาประกาศเช่น ราคาที่ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ส่งตรงยังเขียงเลย วันนี้ขายได้เพียง 72 บาท/กิโลกรัม ทั้งที่ประกาศราคาแนะนำเพิ่มอีก 4 บาทซึ่งปรับจากจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 74 บาท/กิโลกรัมเป็น 78 บาท/กิโลกรัม ดังนั้นผู้เลี้ยงยังขายได้ต่ำกว่าราคาประกาศถึง 6 บาท/กิโลกรัม
ขณะนี้ผู้เลี้ยงสุกรยังประสบปัญหาสุกรโตช้าเนื่องจากอากาศร้อนทำให้ไม่ค่อยกินอาหาร ประกอบกับบางพื้นที่แห้งแล้งจนต้องซื้อน้ำมาใช้ในฟาร์ม โดยราคาประมาณคันรถละ ดังนั้น 1,000 – 2,000 บาทขึ้นอยู่กับระยะทางจึงขอให้ผู้บริโภคเข้าใจและไม่ต้องเป็นกังวลว่า จะมีการปรับแบบไม่เป็นธรรม โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลราคาและระบบการค้าให้เกิดความเป็นธรรมทั้งกับผู้บริโภคและผู้ค้า ขณะเดียวกันต้องดูแลเกษตรกรให้ได้รับราคาที่เหมาะสมด้วย หากภาคการผลิตอยู่ในภาวะที่ขาดทุนต่อเนื่องและถูกกดราคา ผู้เลี้ยงไม่สามารถอยู่ได้จะส่งกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร ดังนั้นควรปล่อยให้กลไกตลาดทำงานสร้างสมดุลราคาและจะทำให้คนไทยมีเนื้อหมูบริโภคโดยไม่ขาดแคลนในราคาสมเหตุสมผล
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ประกาศราคาแนะนำสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มโดยระบุว่า ผู้เลี้ยงสุกรทุกภูมิภาคยกระดับราคาสำหรับวันพระนี้อีก 4 บาท/กิโลกรัมเนื่องจากต้นทุนการผลิตอยู่ที่ประมาณ 80 บาท/กิโลกรัม โดยแบ่งตามรายภาคดังนี้
- ภาคตะวันตก 72 บาท/กิโลกรัม
- ภาคตะวันออก 72-78 บาท/กิโลกรัม
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 74-76 บาท/กิโลกรัม
- ภาคเหนือ 75-78 บาท/กิโลกรัม
- ภาคใต้ 74 บาท/กิโลกรัม
ราคาหน้าฟาร์มที่เริ่มขยับขึ้นเข้าใกล้ต้นทุนที่ 80 บาท/กิโลกรัมเริ่มส่งผลดีต่อเกษตรกรรายย่อยบ้างแล้ว จากที่ขาดทุนมานานกว่า 1 ปี.-512 – สำนักข่าวไทย