กรุงเทพฯ 18 เม.ย. – ครอบครัวรับศพอาสากู้ภัยเหยื่อกระสุนปืน 2 มูลนิธิทะเลาะกัน แม่ลั่นไม่ยกโทษ
ความคืบหน้ากรณีอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทะเลาะวิวาทบริเวณถนนเกษมราษฎร์ หน้าห้างโลตัส สาขาพระราม 4 เขตคลองเตย เมื่อเวลา 12.43 น. ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ญาติของนายชุษณะ โชติพรม อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่รถ แผนกบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ผู้เสียชีวิตจากการถูกอาวุธปืนยิงที่หน้าอกในเหตุดังกล่าว เดินทางเข้ารับศพ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนนำร่างไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดโพสพผลเจริญ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และฌาปนกิจในวันที่ 23 เมษายนนี้
นางสุกัญญา โชติพรม อายุ 57 ปี มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุนอนหลับอยู่ น้องสาวโทรศัพท์มาแจ้งถึงเหตุดังกล่าว ซึ่งคิดว่าลูกชายน่าจะไม่เป็นอะไรมาก แต่น้องสาวบอกให้ทำใจดี ๆ เพราะขณะนั้นกำลังทำการกู้ชีพลูกชายของตนแล้ว โดยลูกชายของตนทำงานตามพ่อมาตั้งแต่เด็ก เพื่อเป็นอาสาช่วยเหลือสังคม และเป็นเจ้าหน้าที่เมื่อปี 2563 วันเกิดเหตุลูกชายออกจากบ้านเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ตนก็ยังติดตาภาพนั้นอยู่ ซึ่งได้ยินข่าวลักษณะนี้บ่อย และเตือนลูกอยู่เสมอ จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ จึงอยากฝากไปยังผู้บริหารขององค์กร และผู้เกี่ยวข้อง ให้ลงมาช่วยกำกับดูแลถึงปัญหาในอดีตให้เสร็จสิ้น เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอีก รวมถึงอยากฝากตำรวจว่าให้ช่วยหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ ส่วนในฐานะแม่ การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่หลวง ไม่มีอะไรจะบรรยาย แต่ก็ขอให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี และจะรักลูกตลอดไป จากนี้จะนำร่างของลูกไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโพสพผลเจริญ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และฌาปนกิจในวันที่ 23 เมษายน ทั้งนี้ หากทางคู่กรณีเข้ามาขอโทษ ตอนนี้ตนก็ยังไม่พร้อมยกโทษ ยังไม่อยากพบเจอ
ขณะที่นายพีระพงษ์ โชติพรม อายุ 55 ปี บิดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ปัญหาเกิดจากอีกมูลนิธิไม่ยอมละทิ้งจุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่มีคำสั่งไม่ให้เกี่ยวข้องกับพื้นที่ดังกล่าวแล้ว หรือเป็นเพราะยังมีผลประโยชน์จากการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุจากโรงพยาบาล โดยที่ผ่านมาผู้บริหารแต่ละองค์กรทำความเข้าใจกันแล้ว รวมถึงมีการกระทบกระทั่งเกิดขึ้น แต่ไม่รุนแรง เพราะกลุ่มคู่กรณีเองก็เคยอยู่ที่ป่อเต็กตึ๊ง รวมถึงรู้จักกันมาก่อน แต่ครั้งนี้กลับถึงขั้นมีการเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย