นราธิวาส 8 พ.ย. – ภรรยาจัดเตรียมสถานที่สำหรับรดน้ำศพ “นายกอาร์ม” นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะ หลังถูกคนร้ายบุกยิงเสียชีวิตอย่างอุกอาจถึงในห้องประชุม ครอบครัวเตรียมรับศพจากโรงพยาบาลทำพิธีในเวลา 14.00 น. มีหน่วยงานราชการและองค์กรทยอยนำพวงหรีดมาเคารพศพต่อเนื่อง
นางรัชดา ดูแลความเรียบร้อยการจัดเตรียมสถานที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนอนุบาลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่จะใช้เป็นที่รดน้ำศพนายวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะ หรือนายกอาร์ม สามี ที่ถูกคนร้ายบุกยิงเสียชีวิตอย่างอุกอาจถึงในห้องประชุม หจก.แฮนด์ อิน แฮนด์ ซึ่งครอบครัวเตรียมไปรับศพจากโรงพยาบาลรือเสาะ มาทำพิธีในเวลา 14.00 น. และพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เวลา 15.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ซึ่งมีหน่วยงานราชการและองค์กรทยอยนำพวงรีดมาเคารพศพอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม นางรัชดา ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยพูดเพียงสั้นๆ ว่ายังไม่พร้อม สามีไม่เคยบอกหรือพูดคุยเรื่องปัญหาใดๆ กับตน เป็นคนที่ไม่ชอบมีปัญหากับใคร ถ้าดูแล้วว่าจะเกิดปัญหาจะไม่เข้าไปยุ่งหรือหนีปัญหาด้วยซ้ำ
ส่วนบรรยากาศที่โรงงานแฮนด์ อิน แฮนด์ จุดเกิดเหตุ เป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่อจากวันนี้โรงงานหยุดกิจการ พนักงานส่วนใหญ่เดินทางไปช่วยงานศพ มีเพียงพนักงานบางคนเดินทางมาจัดเก็บดูแลความเรียบร้อยโรงงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดกิจการตามปกติในเร็ววันนี้
ความคืบหน้าของคดี ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเปิดเผยว่าขณะนี้ตั้งปมสังหารไว้ 4 ประเด็น ทั้งเรื่องการเมือง ธุรกิจ ความขัดแย้งส่วนตัว และความมั่นคง ยังไม่ตัดทิ้งประใดประเด็นหนึ่ง แต่เน้นหนักเรื่องการเมือง เนื่องจากตำแหน่งนายกจะครบวาระในอีกไม่นานนี้ มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าถ้านายกอาร์มลงเลือกตั้งอีกสมัย คู่แข่งจะเอาชนะยาก ทั้งนายกอาร์มยังเป็นหัวคะแนนฐานเสียงสำคัญในพื้นที่ จนกลายเป็นที่มาของปมเหตุที่อาจจะนำไปสู่ปมสังหารด้วยหรือไม่ และคาดว่าน่าจะมีคนภายในโรงงานเป็นคนแจ้งเบาะแสหรือชี้เป้าให้กลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาก่อเหตุ โดยไม่ได้ทำร้ายบุคคลอีก 3 คนที่นั่งพูดคุยอยู่ภายในห้องประชุม
ขณะที่ประเด็นด้านความมั่นคง เจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักน้อยที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องรอผลการตรวจสอบปลอกกระสุนปืน ว่ากลุ่มคนร้ายนำอาวุธปืนไปใช้ก่อเหตุที่ใดบ้าง แต่มีความเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้อาจเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง แต่ใครอยู่เบื้องหลังสั่งการหรือว่าจ้าง ด้วยจุดประสงค์ใด ต้องสืบสวนสอบสวนโดยละเอียดก่อน.-สำนักข่าวไทย
