กทม. 11 เม.ย.- “นิกร” ชื่นชม “หมอระวี” พยายามยื่นศาลรธน.ตีความบัตร 2 ใบ ยืนยันการแก้ไขเคารพเจตจำนงประชาชน ระบุเร่งเครื่องทำงาน หลังสงกรานต์มีคิวพิจารณาไพรมารีโหวต-สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ
นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ…. รัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ใช้สิทธิยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ว่า เรื่องดังกล่าวตนขอชื่นชมในการต่อสู้ตามความเชื่อของนพ.ระวี แต่การยื่นศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ไม่มีผลให้การทำงาของกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.ป. ที่เสนอให้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่1) พ.ศ.2564 ต้องชะลอหรือยุติการทำงาน เนื่องจากการทำงานของกมธ. ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ที่กำหนดให้รัฐสภาต้องทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน
นายนิกร กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นพ.ระวี เคยจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256(9) ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ผ่านวาระสาม แต่ไม่สามารถรวบรวมชื่อสมาชิกสมาชิกรัฐสภา ได้ตามเกณฑ์คือ 1 ใน 10 ต่อมา นพ.ระวีจึงใช้สิทธิยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญต่อมา อย่างไรก็ตาม ในประเด็นการแก้ไขเรื่องบัตรเลือกตั้งจาก 1 ใบ เป็น 2 ใบ รวมถึงแก้ไขจำนวนสมาชิกสภาฯ จาก 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบเขต 350 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน เป็น สมาชิกสภาฯ 500 คน แบ่งเป็นส.ส.เขต 400 เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คนนั้นมีเหตุผลที่ชัดเจนตั้งแต่การเเสนอแก้ไขแล้ว เพื่อให้ ประชาชนสามารถใช้เจตจำนงเลือกตั้งสอดคล้องกับความเป็นจริง ส่วน การแก้ไขให้มี ส.ส. 400 เขตเพื่อให้ดูแล แก้ปัญหาประชาชนได้ใกล้ชิดมากขึ้น
“ในฐานะอดีตเลขานุการกมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าการทำงานแก้ไขรัฐธรรมนูญทำถูกต้อง และทุกฝ่ายเข้าใจ และในการประชุมของกมธ.พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้นไม่เคยมีใครยกประเด็นของนพ.ระวีมาพิจารณาเพราะเป็นเรื่องภายนอก กมธ. ไม่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน และไม่มีเหตุผลที่ทำให้ กมธ.พิจารณากฎหมายลูกต้องหยุดลง เว้นแต่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน หากตัดสินว่าทำไม่ได้ การทำงานของกมธ.ที่ผ่านมาจะถือว่าโมฆะ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน” นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวว่า นอกจากนี้ กมธ.เตรียมเร่งรัดการทำงาน โดยวันที่ 20- 21 เมษายน จะประชุมเต็มวัน ซึ่งมีวาระพิจารณาสำคัญ ทั้งเรื่องไพรมารีโหวต และการคำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยกมธ.กำหนดกรอบว่าต้องทำงานให้แล้วเสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯ ช่วงปลายเดือนกพฤษภาคม.-สำนักข่าวไทย