กรุงเทพฯ 8 เม.ย.-สำนักงานสลากฯ เร่งกระจายจุดขายสลากฯ 80 บาท ทั่วประเทศ เตรียมทดลองขายผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” เม.ย.นี้
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการสลากฯ 80 บาท ตามที่บอร์ดสลากฯ เห็นชอบแล้ว จึงเตรียมนำมาจำหน่ายสลากผ่านแอป “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีประชาชนใช้งานกว่า 40 ล้านคน เป็นระบบมีมาตรฐาน มีความปลอดภัยทางเทคโนโลยีฯ เพื่อเปิดให้ตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ นำมาฝากขายได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งสิ้น
สำนักงานสลากฯ ยังเปิดให้ตัวแทนเจ้าของสลากฯ ขายสลากฯ ได้เองบางส่วน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ขายสลากฯ ให้หมดจากที่รับมา มีระบบการควบคุมราคา การตรวจสอบได้อย่างชัดเจน ผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากฯ เตรียมเริ่มทดสอบระบบภายในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2565 จากนั้น เริ่มเปิดซื้อขายเต็มรูปแบบ ในงวดออกรางวัลวันที่ 16 มิถุนายน 2565 เริ่มขายตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป สำหรับคนพิการ และกลุ่มเปราะบาง พร้อมพัฒนาแอปฯ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้เป็นกรณีพิเศษด้วย
สำหรับโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ เพื่อคัดกรองผู้สมัครตัวแทนจำหน่ายรานใหม่นับล้านคน และตัวแทนราย้เดิม 1.3 แสนคน เพื่อคัดกรองให้เหลือ 2 แสนคนนั้น ขณะนี้สำนักงานสลากฯ ได้มีหนังสือขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่ ร่วมเป็นผู้ตรวจสอบตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของจังหวัด เพื่อนำข้อมูลมาตรวจสอบเปรียบเทียบกับรายชื่อผู้ลงทะเบียนผู้ซื้อ – จองล่วงหน้าฯ ที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อให้คนที่ขายสลากฯ จริง แต่ไม่ได้รับโควตาและไม่ได้รับสิทธิ เป็นคนกลุ่มเปราะบาง จึงต้องดูแลให้เข้ามาสู่ระบบ การคัดกรองจะต้องเป็นไปด้วยความชัดเจน มีความแม่นยำ เพื่อให้ได้ผู้ค้าสลากฯ ต้องเป็นผู้ขายให้กับผู้บริโภคโดยตรงไม่ใช่การขายส่งหรือลักษณะพ่อค้าคนกลาง
นายเสกสกล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้ปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาสาระในสัญญารับสลากไปจำหน่าย เพื่อเพิ่มสภาพบังคับให้มีความเข้มข้นและเกิดความเกรงกลัวมากขึ้น รองรับการเริ่มจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มเป๋าตัง สำนักงานสลากฯ ยังเร่งแก้ไขปัญหาในส่วนต่างๆ เพื่อให้การบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ คล่องตัวมากขึ้น รวมถึงดูแลค่าใช้จ่ายในการบริหาร และการแก้ไขปัญหาในระยะยาว.-สำนักข่าวไทย