ยอดจำหน่ายสลาก N3 งวดแรก 1.89 ล้านฉบับ

นนทบุรี 1 พ.ย. – สำนักงานสลากฯ เผยประชาชนตอบรับสลาก N3 งวดแรก ยอดจำหน่าย 1.89 ล้านฉบับ ซื้อกว่า 8 หมื่นคน ถูกรางวัล 976 ใบ ยืนยันกระบวนการออกรางวัลโปร่งใส เร่งทำความเข้าใจพร้อมเพิ่มจุดจำหน่าย ก่อนดีเดย์ขายจริงเต็มรูปแบบ งวด 17 มี.ค.68


วันนี้เป็นการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก หรือ สลาก N3 เป็นงวดแรก งวด 1 พ.ย.67 อ้างอิงจากผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (งวด 1 พ.ย.67 รางวัลที่ 1: 536044) เลขรางวัล 3 ตรง : 044 รางวัลละ 7,004 บาท เลขรางวัล 3 สลับหลัก : 404, 440 รางวัลละ 3,065 บาท เลขรางวัล 2 ตรง : 32 รางวัลละ 543 บาท สำหรับเลขรางวัลพิเศษ (แจ็กพอต) : 044000000460 รางวัลละ 240,782.00 บาท

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า สำหรับภาพรวมการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก หรือ สลาก N3 งวดแรก ที่จำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปในระบบทดสอบ (Sandbox) สำนักงานสลากฯ ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมทดสอบเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่วันแรกที่เปิดจำหน่าย โดยมียอดจำหน่ายในงวดแรกรวม 1,898,869 ฉบับ จากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 5 ล้านฉบับ จำนวนผู้ซื้อ 85,468 ราย เฉลี่ยซื้อรายละ 22 ฉบับ ซึ่งเป็นปริมาณใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากในช่วงการทดสอบจำหน่าย มีการกำหนดจุดจำหน่ายอย่างจำกัดผ่านโครงการสลาก 80 จำนวน 647 จุดจำหน่ายเท่านั้น


ทั้งนี้ การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในงวดแรกถือว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ ก็เริ่มเข้าใจระบบการจำหน่าย วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายรางวัลมากขึ้น รวมทั้งขอขอบคุณร้านค้าโครงการสลาก 80 ทั้ง 647 จุดทั่วประเทศ ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ โดยสำนักงานสลากฯ จะขอเก็บข้อมูลผลกระทบ และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ให้รอบด้าน ก่อนการพิจารณาในเรื่องตัวแทนจำหน่าย และจะเริ่มจำหน่ายเต็มรูปแบบในเดือนเมษายน 2568”

รศ.ดร.ธรวรรธน์ กล่าวว่า การทดสอบจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักงวดแรก สำนักงานสลากฯ ได้ให้ความสำคัญในประเด็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ว่าจะกระทบกับการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักอย่างไร จากการประเมินในเบื้องต้น พบว่าไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ เพราะทั้งรูปแบบ ราคาจำหน่าย และการจ่ายเงินรางวัล มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่อาจจะส่งผลให้สลากที่จำหน่ายเกินราคามาก ๆ ได้รับความสนใจลดลง เพราะผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้น

ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก (สลากN3) ซึ่งอยู่ระยะเวลาทดสอบแบบปิด (Sandbox) โดยยอมรับว่า การจำหน่ายสลาก N3 ในงวดแรก อาจมีจำนวนซื้อไม่มากนัก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความไม่เข้าใจในการซื้อสลาก N3 รวมถึงจุดจำหน่ายมีจำกัด จำนวน 600 แห่ง จาก 900 จุดทั่วประเทศ ซึ่งอาจมีไม่ทั่วถึงกับความต้องการ ดังนั้นในงวดที่สอง สำนักงานสลากฯ อาจจะมีการเพิ่มจุดหน่าย แต่จะต้องมีการประเมินความพร้อมของสลาก 6 หลัก (L6) ก่อน พร้อมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทางของสำนักงานสลากฯ ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ต่างๆ และในแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง รวมถึงขั้นตอนการซื้อ 


ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีข้อเรียกร้องให้เพิ่มจุดจำหน่ายให้เพิ่มขึ้น ซึ่งเหตุผลที่สำนักงานสลากฯ ให้ตั้งจุดขายไปที่ร้าน 80 บาท เพราะว่าต้องการสร้างอาชีพให้คนขายจริงๆ และในช่วง Sandbox ก็ต้องการสร้างความเข้าใจผู้ซื้อ รวมถึงต้องการไม่ให้ยอดขายN3 สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนไปกระทบการขายสลาก 6 หลัก (L6)

ขณะเดียวกัน จากเปิดทดสอบจำหน่ายในระบบ Sandbox คาดว่า หลังจากผ่านไป 3 เดือน ยอดขายน่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะประชาชนจะมีความเข้าใจในการซื้อสลาก N3 มากขึ้น ขณะที่สำนักงานสลากฯ จะเริ่มจำหน่ายสลาก N3 อย่างเต็มรูปแบบงวด 1 เมษายน 2568 และเชื่อว่าสลาก N3 จะได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนการเปิดรับตัวแทนจำหน่าย N3 รายใหม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ในแผนของสำนักงานสลากฯ โดยในช่วงแรกจะเปิดโอกาสให้กับผู้จำหน่ายหลัก คือ ผู้ที่จำหน่ายสลากแบบใบ 80 บาทก่อน ถัดไปจะเปิดให้กับผู้จำหน่ายสลากแบบดิจิทัล และผู้พิการ ที่มีอยู่ในระบบจำนวน 6,000 ราย ส่วนการเปิดให้ผู้ค้ารายใหม่ขาย N3 ก็ยังอยู่ในแผนแต่จะเป็นเปิดเมื่อไร สำนักงานสลากฯ อยากให้เป็นลักษณะขยับแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่มีผลกระทบผู้ขายสลากแบบใบ หรือ L6 รวมทั้งต้องการป้องกันผู้ซื้อถูกหลอกการขายแอบแฝง

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากฯ ยืนยันวัตถุประสงค์ในการออกผลิตภัณฑ์สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก เพื่อมุ่งเน้นแก้ปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา และขอเตือนประชาชน ให้ซื้อสลากเพื่อเสี่ยงโชคในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป พร้อมกันนี้จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ในการควบคุมไม่ให้มีการจำหน่ายสลากให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และไม่จำหน่ายใกล้สถานศึกษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก จะอ้างอิงจากผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก ที่ออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง ในวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน หรือตามที่สำนักงานสลากฯ กำหนด โดยรางวัลสามตรงและสามสลับหลักจะมาจากผลรางวัลเลข 3 ตัวท้ายของรางวัลที่ 1, รางวัลสองตรง มาจากรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งจะเพิ่มเติมขั้นตอนการออกรางวัลพิเศษ ในช่วงท้ายภายหลังจากออกรางวัลที่ 1 เสร็จสิ้นแล้ว เป็นการสุ่มหมายเลขจากจำนวนรายการของผู้ที่ถูกรางวัลสามตรงเท่านั้น

ผู้ที่ถูกรางวัลทุกประเภท จะได้รับการเตือนในแอปพลิเคชันเป๋าตัง และสามารถกดรับเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ทันที โดยจะต้องมีการชำระค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท ต่อเงินรางวัล 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท และการรับเงินโดยวิธีการโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีธนาคาร ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย