โซล 31 มี.ค.- ศาลรัฐธรรมนูญในกรุงโซลของเกาหลีใต้มีคำชี้ขาดยืนยันตามคำสั่งห้ามการสักร่างกายโดยช่างสัก ทำให้เกาหลีใต้เป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศเดียวในโลกที่อนุญาตให้ผู้สักร่างกายได้ต้องเป็นแพทย์เท่านั้น
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำชี้ขาดด้วยคะแนน 5 ต่อ 4 ในวันนี้ว่า กฎหมายห้ามการสักโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยให้เหตุผลที่ปฏิเสธคำร้องเรื่องกฎหมายฉบับนี้ที่ว่าละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิที่จะประกอบอาชีพว่า การสักร่างกายมีผลข้างเคียงและมีประเด็นเรื่องความปลอดภัย ผู้มีความรู้ทางการแพทย์และทักษะในการสักอย่างจำกัดไม่สามารถรับประกันมาตรฐานการรักษาได้เทียบเท่ากับผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาก่อนหรือหลังการสัก
ด้านสหภาพช่างสักที่มีสมาชิกประมาณ 650 คน ออกแถลงการณ์ประณามคำชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญว่า ล้าหลังและไร้ค่า นายคิม โดยูน ประธานสหภาพฯ ซึ่งเป็นช่างสักชื่อดังที่รู้จักกันในชื่อ “ดอย” ถึงกับกล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังคงเดิน 4 ขา ในขณะที่ประชาชนทุกคนเดินตัวตรงกันหมดแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญยังคงอยู่กับที่นับตั้งแต่ศาลฎีกามีคำตัดสินในปี 2535 โดยเลียนแบบคำตัดสินของศาลญี่ปุ่นที่ว่า การสักเป็นเรื่องทางการแพทย์ ทั้งที่ปัจจุบันศาลญี่ปุ่นได้กลับคำตัดสินดังกล่าวไปแล้ว
เกาหลีใต้มีช่างสักเกือบ 50,000 คน พวกเขาเสี่ยงถูกตำรวจบุกจับกุมและดำเนินคดีในการประกอบอาชีพ กฎหมายห้ามสักโดยช่างสัก กำหนดโทษปรับสูงสุด 50 ล้านวอน (ราว 1.37 ล้านบาท) และจำคุกสูงสุดตลอดชีวิต แต่ส่วนใหญ่มักถูกจำคุกราว 2 ปี กลุ่มช่างสักเดินหน้าฟ้องศาลมาตั้งแต่ปี 2560 แต่ไม่สำเร็จ ขณะที่การสักแบบเกาหลีเริ่มได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ เพราะมีลวดลายสวยงาม รายละเอียดประณีต กล้าใช้สีสันจัดจ้าน บุคคลมีชื่อเสียงชาวเกาหลีใต้ รวมทั้งสมาชิกวงเคป็อป มักปกปิดรอยสักเมื่อปรากฏตัวทางโทรทัศน์ และจะอวดในสื่อสังคมออนไลน์แทน.-สำนักข่าวไทย